ศาสนาประจำชาติ

 

ศาสนาประจำชาติ

 

                     ประเทศส่วนใหญ่ แม้ลาว กัมพูชา พม่า หรือมาเลเซียล้วนบัญญัติศาสนาประจำชาติไว้ในรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจน มีแต่ประเทศไทยของเรานี้เท่านั้นที่ไม่กล้าบัญญัติบัญญัติคำว่า “พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติไทย” ไว้ในรัฐธรรมนูญไม่ว่าฉบับไหนนับแต่ปี ๒๔๗๕ เป็นต้นมา  ด้วยเหตุผลทางการเมืองการปกครองที่สลับซับซ้อนซึ่งจะไม่ขอกล่าวในที่นี้

 

                    บัดนี้ก็ถึงเวลาแล้วที่เราต้องเอาใจใส่กันอย่างจริงจังในเรื่องนี้  มิฉะนั้นประเทศไทยจะต้องล้มลุกคลุกคลานอยู่เช่นนี้ และไม่ว่าจะพากันร่างรัฐธรรมออกมาเป็นประชาธิปไตยหรือร่างออกมาดีสักแค่ไหน ก็จะต้องถูกฉีกทิ้งไปครั้งแล้วครั้งเล่า

 

                    จนกว่าคนไทยทั้งชาติจะมองเห็นความสำคัญและช่วยกันจรรโลงพระพุทธศาสนาให้มากกว่าทุกวันนี้  ไม่ใช่ปล่อยให้พระพุทธศาสนาถูกย่ำยีเหมือนระยะเวลา ๕๐ ปีที่ผ่านมา นับแต่มีพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕ ที่บัญญัติกฎหมายตามความต้องการของฝ่ายบ้านเมืองเป็นหลัก โดยไม่ได้เป็นไปตามพระธรรมวินัยและไม่ใช่ความต้องการของพระสงฆ์ผู้เทิดทูนพระธรรมวินัยอย่างแท้จริง

 

                    เราเกิดมาในชนชั้นหลัง  อันเป็นยุคสมัยที่ต่างกัน  คนรุ่นก่อนอาจมีความจำเป็นในการรักษาอำนาจบางอย่างไว้จึงต้องเลือกทำไปเช่นนั้น  แต่เมื่อโลกได้วิวัฒนาการมาสู่ยุคสมัยปัจจุบัน  สิ่งใดที่คนรุ่นก่อนได้ทำผิดพลาดไว้ เราก็ไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้นอีกต่อไป  แต่ควรช่วยกันแก้ไขให้การบริหารกิจการพระศาสนาเป็นไปตามพระธรรมวินัย ที่ไม่ใช่โดยใช้วิธีการปกครองแบบข้าราชการหรือแบบขุนนางโบราณอย่างที่เป็นอยู่ แต่ควรเป็นแบบประชาธิปไตยที่ยึดเอาพระธรรมวินัยเป็นหลักทั่วทั้งสังฆมณฑล   อันเป็นสิ่งที่มีมาแต่เดิมก่อนมีกฎหมาย

 

                     ตราบใดที่ยังไม่ยอมบัญญัติให้พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ  ประเทศไทยจะยังไม่มีรัฐธรรมฉบับคู่บารมีกับชาติไทยอย่างแท้จริงได้เลย  และจะเกิดการแย่งชิงอำนาจเช่นนี้ครั้งแล้วครั้งเล่าเรื่อยไปตราบนั้น

 

                     บุคคลใดที่เคยคัดค้านหรือใครที่คิดจะคัดค้านก็ควรเลิกคัดค้านได้แล้ว ก่อนที่ประเทศไทยจะทรุดโทรมลงไปมากกว่าเป็นอยู่  ศาสนาอื่นก็ขอจงรับรู้และยอมรับความจริงในเรื่องนี้  แล้วความผาสุกในบ้านเมืองก็จะเกิดขึ้นตามมา เมื่อช่วยกันเยียวยารักษาชาติบ้านเมืองของเรานี้ร่วมกันด้วยคุณธรรมสากลคือความมีเมตตาธรรมและมีความเคารพต่อกัน

 

                     ขอส่งกำลังใจมายังทุกท่านที่ทำงานในเรื่องนี้  หากเป็นไปได้ อยากขอให้ช่วยกันเปลี่ยนธรรมเนียมบางอย่างให้เป็นวิถีของชาวพุทธเสียที  อันดับแรกควรเลิกพิธีงานศพจากแต่งกายสีดำแบบคริสต์มาเป็นแต่งกายสีขาวแบบพุทธได้ก็ดี เพราะตามคติชาวพุทธนั้นงานศพไม่ใช่เรื่องของความโศกเศร้า แต่คือการส่งบุคคลนั้นไปสู่สรวงสวรรค์หรือนิพพาน ไม่ได้รอคำพิพากษาจากใครให้โศกตรม   งานศพของสังคมตะวันออก ไม่ว่าจะเป็นพุทธ ฮินดู หรืออิสลาม ล้วนแต่งกายสีขาวทั้งสิ้น

 

                     ประเทศสยามของเรานี้  เราต้องมีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ  แล้วจะกลายเป็นประเทศมหาอำนาจดังที่เคยมีกระแสเคยกล่าวขวัญกันไว้มาเป็นเวลา ๓๐ ปีแล้ว  เพราะจะเป็นไปตามพระราชปณิธานของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชที่พระองค์ทรงตรัสว่า

 

                   อันตัวพ่อชื่อว่าพระยาตาก   ทนทุกข์ยากกู้ชาติพระศาสนา

 

             ถวายแผ่นดินให้เป็นพุทธบูชา     เพื่อพระศาสนาสมณะพระพุทธโคดม

 

             ให้อยู่ยงคงถ้วนห้าพันปี              สมณะพราหมณ์ชีปฏิบัติให้พอสม

 

             สมถะและวิปัสสนาพ่อชื่นชม       ถวายบังคมรอยบาทพระศาสดา

 

                   คิดถึงพ่อพ่ออยู่คู่กับเจ้า         ชาติของเราคงอยู่คู่พระศาสนา

 

             พุทธศาสน์ยืนยงคู่องค์กษัตรา      พระศาสดาฝากไว้ให้คู่กัน ฯ

 

            ฐาตุ จิรํ พุทฺธสาสนํ  ขอพระพุทธศาสนาจงดำรงอยู่ยั่งยืนนานตลอดกาล เทอญ ฯ

 

                                                                    คุรุอตีศะ

                                                            ๒๑  ธันวาคม  ๒๕๕๘