ชีวิตเมื่อเจอวิกฤติ
- รายละเอียด
- หมวด: คติธรรม/ปรารภธรรม
ชีวิตเมื่อเจอวิกฤติ
ความผิดพลาดของคนอื่น คือบทเรียนอันล้ำค่าที่จะนำมาสอนใจและตระหนักรู้ถึงความไม่แน่นอนของสรรพสิ่ง การที่เรายังอยู่ดีมีสุขในวันนี้ ถือว่าเรายังมีบุญวาสนาและโชคดี ที่ยังไม่พบกับความอับจน จนต้องตัดสินใจผิดด้วยอารมณ์ชั่ววูบเหมือนปลัดอำเภอท่านนั้น
เรายังครองตนเป็นคนดีมีศีลธรรม เป็นที่ยอมรับในสังคมอยู่ได้ในแต่ละวัน ก็ถือว่าเป็นพรของชีวิตอันสำคัญยิ่งกว่าทรัพย์สินเงินทองอื่นใดแล้ว เรายังไม่เผลอสติทำความผิดพลาดครั้งใหญ่ถึงขั้นคิดจี้ร้านทอง ทั้งที่ตลอดมาท่านผู้นั้นก็ไม่เคยแม้แต่คิด ไม่เคยมีอยู่ในนิสัยมาก่อน
นี่แหละท่านจึงสอนพวกเราว่า อย่าประมาทในชีวิต อย่าประมาทในการสร้างกุศล เพราะไม่มีอะไรเป็นหลักประกันว่า เราจะไม่ทำความผิดพลาดเหมือนคนอื่นได้ตลอดไป จนกว่าจะถึงวันที่มีลมหายใจครั้งสุดท้าย นั่นแหละจึงจะสรุปได้ว่า ใครดีหรือใครเลวที่แท้จริง
ไม่มีใครรู้อนาคตว่า เราอยู่ดีมีสุขในครอบครัวอย่างที่เห็นทุกวันนี้ วันข้างหน้าจะมีสิ่งมาทำให้เกิดความผันแปร หรือเกิดความผิดพลาดในชีวิตเหมือนปลัดอำเภอท่านนั้นหรือไม่ เราพออยู่เป็นสุข มีข้าวกิน มีที่ซุกหัวนอนอย่างเช่นทุกวันนี้ ชีวิตก็ดีถมไป อย่ากังวลต่ออนาคตมากเกินไป จะทำให้หัวใจตีบตันและสูญเสียพลังงาน
ความทุกข์ยากที่บีบคั้นชีวิตเมื่อตอนอายุ ๑๙ ปี มรสุมชีวิตถาโถมเข้าสู่ครอบครัวต้องบากหน้าทนอับอายกู้เงิน ๒,๐๐๐ บาท ดอกเบี้ยร้อยละ ๕ ต่อเดือน จากจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อนำมามอบให้พ่อแม่และน้องๆซื้อข้าวสารที่สระแก้วในตอนนั้น พอเดินทางกลับปรากฏว่าค่ารถที่คิดว่าจะพอกลับไม่พอจะตีตั๋วระหว่างทาง จิตใจสุดอ้างว้างมืดมิดเหมือนอยู่ในโลกคนเดียว ณ สถานีรถไฟถนนจิระ นครราชสีมา สุดยากจะบรรยาย
แม้ในช่วงเวลานั้นจะมีคนใจบุญเข้ามาช่วยเหลือออกเงินค่าตั๋วให้จนได้ขึ้นรถไปถึงจุดหมาย แต่ความทุกข์ใจและความสะเทือนใจในครั้งนั้นก็ยังฝังใจอยู่มิเคยลืมตลอดมา
ความทุกข์ยาก ความอดอยาก ต้องแอบเอาถุงน้ำแข็งที่เขาแขวนทิ้งไว้มาดื่มประทังความหิวและความกระหาย มองรอบตัวไปทั่วสถานีรถไฟยามดึกที่เต็มไปด้วยยุง มีผู้คนยากจนนอนระเกะระกะตามทางเดินด้วยความหิวโหยไม่ต่างจากเราผู้ซึ่งเพิ่งเป็นข้าราชการชั้นผู้น้อยใหม่ๆในตอนนั้น
เกิดความสงสารเพื่อนมนุษย์ที่แต่ละคนนอนสลบไสลตากยุงกับพื้นปูนชานชลาที่เต็มไปด้วยฝุ่นผงและคราบสกปรก ซึ่งต่างก็ผจญกับทุกข์ยากไม่แพ้กัน ในปี ๒๕๒๙ นั้น จึงเกิดแรงบันดาลใจอย่างใหญ่หลวงและเกิดความคิดที่จะตั้งมูลนิธิให้ได้ในสักวันหนึ่ง จึงได้เกิด "มูลนิธิศาสนธรรม" หลังจากเหตุการณ์ในครั้งนั้นในอีก ๑๖ ปีต่อมา
แม้ในทุกวันนี้จะไม่ถึงขั้นต้องเอาถุงน้ำแข็งที่เขาทิ้งไว้แอบมาดื่ม แต่ก็เหมือนกับว่าความทุกข์ยากในวันนั้นยังคงแผ่ซ่านในกระแสเลือดไม่เคยจืดจางหายไปไหน ดังนั้น เมื่ออ่านข่าวปลัดอำเภอ แม้ทุกคนจะรู้ดีว่าเป็นความผิด แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเกิดความรู้สึกเห็นใจ และในสังคมปัจจุบันคงมีคนดีๆอีกมากมายที่อาจต้องพบกับความบีบคั้น และกำลังเผชิญมรสุมในชีวิตในทำนองเดียวกับชีวิตท่านปลัดอำเภอ
เมื่อชีวิตพบกับความวิกฤติ จงกล้าหันหน้าเข้าวัดหรือไปศึกษาธรรมะเพื่อตั้งหลักเสียก่อน อย่าดูหมิ่นธรรมะหรือศาสนาว่าไม่สามารถจะช่วยอะไรเราได้ อย่างน้อยการเข้าวัดหรือการเข้าหาพระ จิตจะเกิดกุศล เกิดความเคารพอ่อนน้อมต่อพระรัตนตรัย สติจะเกิดขึ้นได้ง่าย ดีกว่าไปปรึกษาเพื่อนฝูงซึ่งมีความประพฤติหรือแนวความคิดในการใช้ชีวิตที่พอๆกัน
เหมือนกับหนุ่มน้อยซึ่งมีอายุ ๑๘-๑๙ ปีคนนั้น ที่ผ่านวิกฤติชีวิตครั้งนั้นมาได้ ก็เพราะได้อาศัยหลักธรรมจากพระอริยเจ้าท่านให้กำลังใจและเตือนสติ โดยที่ในตอนนั้นตนเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าท่านเป็นพระอริยเจ้า จนกระทั่งมาอ่านหนังสือพบในภายหลัง นี่แหละคือคุณของพระรัตนตรัยที่เป็นดุจต้นไม้ใหญ่ เป็นที่อาศัยของเหล่านกกาโดยไม่ปรารถนาสิ่งใดตอบแทน
การแก้ปัญหาชีวิต การปรึกษาปัญหาชีวิต ควรปรึกษากับผู้ที่มีใจใสสะอาดกว่าหรือผู้ที่มีคุณธรรมสูงกว่า จึงจะได้รับพลังเมตตาและมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยคุ้มครองจนกระทั่งผ่านช่วงเวลาที่คับขัน
คุณของพระศาสนาที่แท้จริงนั้น ไม่ใช้มีไว้รอให้คนมาทำบุญ เอาเงินทองสิ่งของมาให้อย่างที่บางคนเข้าใจ แต่พระศาสนาคือการเป็นต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาแก่ผู้เดินตากแดดฝ่าไอร้อน หรือเป็นลำธารใสอันไหลเย็น คอยเป็นที่พักพิงแก่ผู้คนที่อ่อนล้าหรือหมดเรี่ยวแรงให้มีพลังกลับฟื้นคืนมา
อย่าคิดทำอะไรเพียงเพื่อครอบครัวของตัวเองเท่านั้น จงหันมองให้กว้างออกไป จะพบว่ามีคนอื่นอีกมายหลายครอบครัว ต่างก็มีปัญหาไม่ต่างจากเราแทบทั้งนั้น เราไม่มีเงินส่งค่างวดรถ ส่งค่างวดบ้าน ส่วนเจ้าของร้านทองที่เรานึกอิจฉา เขาก็นอนไม่หลับเพราะกิจการตีบตันนับวันแต่จะขาดทุนจนน่าตกใจอยู่เหมือนกัน เราทุกข์ใจเพราะเป็นหนี้หนึ่งล้าน แต่อาเสี่ยคนข้างบ้านเขาเป็นหนี้ยี่สิบล้าน เขาก็ทุกข์ของเขา ดังนั้นเราจงเห็นใจกันในยามยากนี้ จนกว่าจะพ้นปี ๒๕๖๐ ค่อยมาตั้งต้นกันใหม่ดีกว่า
ในยามที่ต้องเผชิญต่อวิกฤติทุกอย่างนี้ จงกล้าที่จะอยู่อย่างพญาเสือโคร่งตัวผอมโซเพราะอดเหยื่อ เป็นเกลือรักษาความเค็มดีกว่า ไม่ว่าจะประสบความทุกข์ร้อนสักแค่ไหน จงอย่าทิ้งคุณธรรมประจำใจที่เรารักษามาดีแล้วอย่างเด็ดขาด
จงมั่นใจเถิดว่าแม้จะพบกับมรสุมทุกข์ยากแสนสาหัส แต่ใจดวงนี้จะยังมั่นคงและดำรงศรัทธาไว้อยู่เสมอว่า “ธรรมแล ย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม” แล้วจะพบความอัศจรรย์ในชีวิตที่เราจะปลื้มปีติตลอดไปจนวันตาย
มรสุมและปัญหาที่ถาโถมในวันนี้ จะเป็นตัวพลังในการช่วยสร้างชีวิตให้ยิ่งใหญ่และกลายเป็นที่พึ่งของมหาชนต่อไป อุปสรรคขวากหนามใดๆ จะกลายเป็นเหรียญทองและรางวัลชีวิตอันล้ำค่า ที่เงินตราหรือสินทรัพย์ใดๆไม่อาจทดแทนหรือเทียมค่าได้อีกเลย
คุรุอตีศะ
๕ กรกฎาคม ๒๕๕๘