เบากาย เบาใจ
- รายละเอียด
- หมวด: คติธรรม/ปรารภธรรม
เบากาย เบาใจ
การหมกมุ่นในสิ่งใดมากเกินไป จะทำให้จิตสูญเสียความสมดุล แม้แต่การปฏิบัติธรรมที่จัดว่าเป็นกิจกรรมที่อยู่ในฝ่ายธรรมะแท้ๆ หากหมกมุ่นจนเกิดความเคร่งเครียด ก็จะกลายเป็นการไม่ได้ปฏิบัติธรรมไปโดยไม่รู้ตัวได้เหมือนกัน
จงจับหลักไว้ว่า การผ่อนคลายนั่นแหละถือว่าขณะนี้ได้ปฏิบัติธรรมแล้ว อาการที่รู้สึกเบากาย เบาใจนั่นแหละคือจิตได้ปฏิบัติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จิตดวงนี้ได้ปฏิบัติไปก่อนที่อัตตาคือความสำคัญมั่นหมายในความเป็นตัวเราจะเกิดเป็นคำถามขึ้นมาว่า “เราได้ปฏิบัติธรรมหรือทำสมาธิภาวนาหรือยัง?”
คนสมัยนี้นั่งเก้าอี้จนเส้นเอ็นโคนขายึดเกร็งมึนชามาตั้งแต่เป็นเด็กนักเรียนแล้ว การปฏิบัติธรรมจึงไม่จำเป็นต้องไปนั่งสมาธิให้ร่างกายตึงเครียดและเส้นเอ็นยึดเพิ่มขึ้นมาอีก อันจะทำให้โรคปวดหลัง ปวดเอว โรคกระดูกทับเส้น ปวดหลัง ปวดไหล่ ปวดบ่าถามหาตั้งแต่ยังเป็นหนุ่มเป็นสาว เพราะความเคร่งเครียดทั้งร่างกาย จิตใจ สมอง และเส้นเอ็น ที่แทบไม่เคยได้รับการผ่อนคลายตลอดมา จงหันมาผ่อนคลายกายและใจดีกว่า แล้วสมาธิจะเกิดขึ้นเอง
เหตุที่คนสมัยนี้สมาธิเกิดขึ้นยาก ก็เพราะเราถูกฝึกให้คิดและฟุ้งซ่านมาเป็นเวลานานมากด้วยการจดจำและเรียนรู้วิชาการต่างๆ สมองถูกฝึกให้คิดมาตลอด โดยไม่เคยมีใครสอนให้รู้จักหยุดคิดหรือรู้จักการปล่อยวางสู่ความสงบในภายใน จึงเป็นธรรมดาที่เราจะต้องมีความกลุ้มอกกลุ้มใจสะสมจนกลายเป็นนิสัย เพราะไม่เคยมีใครสอนให้เรารู้จักทำใจให้ผ่อนคลายตั้งแต่เล็กจนโต
ดังนั้น ถ้าเราจะฝึกสมาธิให้จิตหยุดคิดหยุดความฟุ้งซ่านกะทันหัน ย่อมเป็นสิ่งที่ไม่มีวันจะเกิดสมาธิดังกล่าวขึ้นมาได้ เพราะสมาธิจะเกิดขึ้นหลังจากจิตใจเกิดการฟอร์แมท (format)คือได้รับการชำระล้างเสียก่อนจนกระทั่งเข้าสู่สภาวะที่ผ่อนคลาย หลังจากนั้นสมาธิจะเกิดขึ้นเองอย่างนอกเหนือความตั้งใจ ดุจเดียวกับสายลมเย็นที่โชยมาทางหน้าต่างโดยไม่มีสิ่งใดจัดสรรปรุงแต่ง ซึ่งเมื่อถึงเวลาสายลมเย็นสดชื่นก็โชยมาเองอย่างไร้เจตนา
ไม่ต้องนั่งสมาธิให้ร่างกายตึงเครียดกดดัน หากว่าทั้งวันเรานั่งแต่เก้าอี้แทบไม่ค่อยได้เดินและใช้สมองเคร่งเครียดมาตลอด แต่จงให้ร่างกายเกิดการผ่อนคลายและถนอมเขาอย่างห่วงใยด้วยความรู้สึกที่อ่อนโยน เสมือนเป็นสิ่งที่น่ารัก น่าทะนุถนอมและมีค่าอันสำคัญยิ่งในชีวิตสิ่งหนึ่งของเรา จงเมตตาสงสารร่างกายของเราที่เป็นทาสรับใช้ผู้ซื่อสัตย์มาตลอด
เมื่อร่างกายยืดหยุ่นผ่อนคลายดีแล้ว หากเราอยากจะนั่งพักจิตในท่าขัดสมาธิบัลลังก์ตามจริตที่เราถนัดก็ค่อยทำ แล้วความสงบ ความผ่อนคลายจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
แต่สำหรับคนที่ปวดหลัง ตามขา ตามสะโพก ตามบั้นเอวเลือดลมเดินไม่ค่อยสะดวก ไม่ควรนั่งขัดสมาธิบัลลังก์แบบนั้น ให้หลีกเลี่ยงการนั่งทรมานสังขารเพราะจิตจะเกิดความตึงเครียดและเกิดความหงุดหงิด กลายเป็นอัตตกิลมถานุโยคคือการทรมานร่างกายโดยไม่เกิดประโยชน์ คนที่สุขภาพร่างกายไม่ดี ไม่ต้องไปฝืนร่างกายทำตามคนอื่น แต่ให้หันมาเจริญสติภาวนาตามวิธีธรรมชาติ จิตใจจะแจ่มใสผ่อนคลายมากขึ้น สุขภาพก็จะดีขึ้นตามมา
สมาธิคือการปล่อยวาง สมาธิคือความผ่อนคลาย เบากาย เบาใจ สมาธิคืออาการที่รู้ ตื่น เบิกบาน คนที่มีสมาธิจะสามารถประกอบกิจการงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ คนที่มีสมาธิจะมีพลังสร้างสรรค์ ไม่หวาดหวั่นย่อท้อต่ออุปสรรค
คนมีสมาธิจะมีความรักหล่อเลี้ยงหัวใจโดยไม่จำเป็นต้องอาศัยเพศตรงข้าม จิตที่ผ่อนคลายและมีความนุ่มนวล อ่อนโยน มีเมตตา นั่นคืออาการอย่างหนึ่งของคุณภาพดวงจิตที่มีสมาธิอยู่แล้วในตัว ไม่ต้องไปแสวงหาสมาธิอื่นใดยิ่งไปกว่าสมาธิแบบนี้อีก
คุรุอตีศะ
๒๖ มิถุนายน ๒๕๕๘