ตั้งจิตให้สูงไว้
- รายละเอียด
- หมวด: คติธรรม/ปรารภธรรม
ตั้งจิตให้สูงไว้
ถ้าตั้งเป้าหมายของชีวิตไว้เพียงเพื่อความสำเร็จของตัวเอง ตั้งความหวังไว้เพียงความสุขของครอบครัวตัวเอง เมื่อประสบกับความกดดันหรือวิกฤติของชีวิต พลังจิตจะไม่แข็งแกร่งพอในการที่จะต้านทานกับปัญหาและมรสุมของชีวิตที่ถาโถมเข้ามา
ถ้าตั้งเป้าหมายของชีวิตไว้ว่า “เมื่อตนประสบกับความสำเร็จแล้ว จะนำเอาความสำเร็จนั้นมาช่วยเหลือสังคม ประเทศชาติ บ้านเมือง ช่วยเหลือส่วนรวมให้สงบสุขร่มเย็น หรือจะช่วยค้ำจุนพระศาสนาให้เจริญรุ่งเรือง”
การตั้งเป้าหมายชีวิตไว้เช่นนี้ จะทำให้เกิดพลังจิตอันแก่กล้า จะมีพลังในการเผชิญปัญหา เพราะเป็นเป้าหมายที่เป็นกุศลและสูงส่ง บุคคลเช่นนี้จะไม่มีการล้มเหลวในชีวิต แม้จะประสบกับวิกฤติของชีวิตสักแค่ไหน ก็จะผ่านไปได้เสมอ
คนเรานั้น แต่ละคนที่เกิดมา มี “เจตจำนง”ในการมาเกิดแตกต่างกัน บางคนเกิดมาเสวยบุญ บางคนเกิดมาใช้กรรม บางคนเกิดมาทดสอบอุดมคติ บางคนเกิดมารักษาวัฒนธรรมประเพณี บางคนเกิดมาสร้างบารมี บางคนเกิดมามุ่งสู่ความหลุดพ้นเป็นชาติสุดท้าย ฯลฯ
แม้จะเกิดมาเป็นพี่น้องพ่อแม่เดียวกัน ตระกูลเดียวกัน นามสกุลเดียวกัน แต่ผู้คนทั้งหลายก็มีวิถีชีวิตแตกต่างกัน มีความปรารถนาหรือความมุ่งหมายในชีวิตต่างกัน เพราะเจตจำนงดั้งเดิมก่อนจะมาปฏิสนธิในชาตินี้แตกต่างกัน เราทุกคนต่างไม่รู้จักเจตจำนงดั้งเดิมของตนก็เพราะเหตุว่า เราไม่มี “บุพเพนิวาสานุสติญาณ” คือระลึกชาติไม่ได้ เราจึงรู้สึกสับสนกับชีวิตของตัวเองกันเป็นส่วนใหญ่ เราใช้ชีวิตแบบหนึ่ง แต่หัวใจที่แท้จริงเราต้องการแบบหนึ่ง
สิ่งหนึ่งที่พอจะอนุมานเอาได้ก็คือ “ความรู้สึกลึกๆภายในที่หาเหตุผลไม่ได้” ที่แต่ละคนมีอยู่ ที่เรารู้สึกว่า “น่าจะเป็นเจตจำนงในการเกิดมา” ของตัวเรา
ซึ่งความรู้สึกนี้เราได้ซ่อนไว้ในส่วนลึกของหัวใจ ไม่อาจบอกใครได้ ไม่มั่นใจหรือไม่รู้สึกไว้วางใจใครพอที่จะบอกความรู้สึกนี้ ไม่อาจบอก ไม่อาจอธิบายแม้แต่กับคนที่เรารัก แม้กับผู้ที่เป็นสามีภรรยา เป็นญาติหรือเป็นเพื่อนสนิท เป็นพ่อแม่หรือเป็นลูกของเรา
บางคนต้องรอให้ชีวิตต้องเจ็บป่วยอย่างรุนแรง บางคนต้องได้พบกับความผิดหวังบางอย่างในชีวิตอย่างรุนแรง บางคนต้องรอให้พบกับความล้มเหลวบางอย่างจนพบกับความเสียใจอย่างรุนแรง จึงจะเริ่มตระหนักถึงจุดมุ่งหมายของชีวิตที่แท้จริงของตน
ถึงกระนั้น หลายคนแม้จะเริ่มมองเห็นหรือเริ่มตระหนักในเรื่องนี้แล้ว ก็ยังเป็นเรื่องยากที่จะกล้าหาญพอ ในการที่จะทำในสิ่งที่หัวใจของตัวเองต้องการอย่างแท้จริงได้
ด้วยเหตุนี้ผู้คนส่วนใหญ่ในโลกนี้ จึงมีความทุกข์อยู่ลึกๆในหัวใจ แม้จะมีชีวิตที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ครอบครัว มีชีวิตที่เต็มไปด้วยความพรั่งพร้อมและความสะดวกสบาย แต่หัวใจภายในก็ยังรู้สึกโหยหาบางสิ่งบางอย่างอยู่ตลอดเวลา
การที่หัวใจของเราโหยหาบางสิ่งบางอย่างนั้น ก็เพราะเรายังไม่ได้เดินไปบนเส้นทางที่เป็นของเราอย่างแท้จริงนั่นเอง
หัวใจของเราที่แท้จริงต้องการไปทิศตะวันออก แต่เมื่อเห็นผู้คนส่วนใหญ่พากันเดินไปทางทิศใต้ เราไม่กล้าจะเดินไปทางทิศตะวันออก เราไม่กล้าเดินแยกออกมาจากกลุ่มชนเหล่านั้น เราไม่กล้าพอที่จะซื่อตรงกับตัวเอง เราจึงเดินไปทางทิศใต้ตามหลังฝูงชนไปเรื่อยอย่างไร้จุดหมาย ทั้งที่หัวใจของเราต้องการเดินทางไปบูรพาทิศ ชีวิตของเราจึงไม่อาจสัมผัสกับความรักอันสูงส่งงดงามแม้จะพยายามแสวงหาเพียงใด หัวใจจึงรู้สึกว่าขาดพลังในการเดินทางเรื่อยมา
จงตั้งจิตในทางที่สูงส่งไว้ อย่าปล่อยให้เวลาอันมีค่าของชีวิตต้องสูญไปเปล่ากับการเดินตามฝูงชน โดยที่หัวใจที่แท้จริงของเราไม่ได้ต้องการจะเดินไปทางนั้น
เพียงเรากล้าเดินไปบนเส้นทางที่เราต้องการจะเดินอย่างแท้จริง กล้าที่จะเลือกเดินไปบนเส้นทางที่เป็นตัวของเราเอง เชื่อมั่นและไว้วางใจต่อความรู้สึกส่วนลึกที่อยู่ในหัวใจของตัวเราเอง ชีวิตก็จะได้พบกับพลังแห่งปีติและกำลังใจอันมากมาย พรแห่งชีวิตที่เราแสวงหามานานก็จะเริ่มต้นขึ้น ทางสายนี้อาจไม่ดูสวยหรูในสายตาของใครบางคน แต่ย่อมงดงามและสวยหรูสำหรับเราเสมอ เพราะคือเสียงระฆังของชีวิตที่แท้จริงของเรา แล้วพลังชีวิตอย่างมากมายจะบังเกิด ชนิดที่ตลอดชีวิตที่ผ่านมา เราไม่เคยมีหรือเคยเกิดความรู้สึกเช่นนี้มาก่อน
เมื่อปรารถนาความสำเร็จในชีวิต จงตั้งจิตให้สูงไว้ว่าเมื่อประสบความสำเร็จแล้ว จะนำความสำเร็จนั้นมาสร้างสรรค์ประโยชน์แก่ส่วนรวมและคนหมู่มาก แล้วชีวิตจะผ่านได้ในทุกปัญหาอย่างน่าอัศจรรย์
การมีเจตจำนงอันสูงส่งในการใช้ชีวิต จะทำให้ไม่มีความล้มเหลวใดมากล้ำกรายหรือบั่นทอนจิตใจได้ จะเกิดอานุภาพทำให้ผ่านอุปสรรคปัญหาและมรสุมชีวิตไปได้ทุกครั้ง
ขอให้ทุกท่านจงตั้งจิตให้สูงไว้เสมอเถิด มรสุมของชีวิตใดๆจะไม่สามารถทำอันตรายได้ แล้วความสำเร็จทั้งมวลจะเข้ามาสู่ชีวิตพร้อมกับพลังแห่งปีติอย่างมากมาย
คุรุอตีศะ
๑๐ มิถุนายน ๒๕๕๘
