พายุร้ายจะผ่านไป
- รายละเอียด
- หมวด: คติธรรม/ปรารภธรรม
พายุร้ายจะผ่านไป
ทุกสิ่งกำลังเดินไปสู่ความเปลี่ยนแปลง หมั่นประคองจิตให้อยู่ในครรลองของกุศล จงอดทนต่อกระแสคลื่นที่ถาโถมและแรงบีบคั้นทั้งหลาย ขอจงพากันมีสติประคองใจแม้ว่าพายุหรือคลื่นลมจะรุนแรงเพียงใดก็ตาม คลื่นลมที่กระหน่ำในขณะนี้อีกไม่นานก็จะผ่านไป
อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันวิสาขบูชาแล้ว ขอให้ทุกคนน้อมจิตระลึกถึงพระผู้ทรงเป็นพระบรมศาสดาเพื่อให้หัวใจที่กำลังไหวหวั่นได้เกิดความตั้งมั่น พระพุทธศาสนาจะยั่งยืนสถาพรต่อไปจนครบพระพุทธศักราชที่ห้าพัน แม้นว่าการเมืองจะบีบคั้นพระศาสนาจนแทบจะล้มครืน
ขอฝากไปยังผู้ที่คิดจะทำในสิ่งที่ไม่ควรทำในยามนี้ คือการบังคับพระให้เสียภาษีเหมือนฆราวาส ซึ่งแสดงว่าไม่เข้าใจวิถีชีวิตของพระว่าไม่ได้มีอาชีพมีรายได้เหมือนชาวบ้าน
การที่ท่านออกกิจนิมนต์หรือสวดพอได้ปัจจัยแต่ละครั้งนั้น ก็เพียงเพื่อดำรงสมณเพศได้ไปแต่ละวัน บางรูปเคร่งบ้าง บางรูปไม่เคร่งบ้าง แต่สิ่งหนึ่งที่พวกท่านทั้งหลายไม่เข้าใจนั้น ก็คือ “ความรักในการประพฤติพรหมจรรย์” นี้คือสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่พระทุกรูปท่านยังคงมี
การคิดจะไปทำแบบทางโลก ให้พระดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสเพียง ๕ ปี เป็นได้ ๒ วาระ มองดูเผินๆก็ดูดีสำหรับพระนักการเมือง ที่ชอบหาพรรคพวก ชอบแสวงหามวลชนเพื่อเป็นฐานอำนาจให้ตัวเองเหมือนข้าราชการหรือนักการเมืองทั้งหลาย
เจ้าอาวาสในทางพระศาสนาไม่ใช่นักการเมืองหรือนักปกครอง ที่จะต้องถูกบังคับด้วยระยะเวลาเพื่อไม่ให้หลงในอำนาจจนเกินไป แต่เจ้าอาวาสคือพระภิกษุที่ชาวบ้านและชุมชนศรัทธาเลื่อมใส ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจ การจะดำรงอยู่ได้นานเพียงใดก็ขึ้นอยู่กับบารมีและความศรัทธาเลื่อมใสนั่นเอง จงอย่าไปออกกฎหมายอย่างมีอคติเพียงแค่ไว้ใช้กับผู้ใดผู้หนึ่งอย่างนั้นเลย
หากจะปฏิรูปพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริงแล้ว อย่าไปทำในสิ่งที่ไม่ควรทำเช่นนั้น สิ่งที่ควรทำอย่างที่สุดก็คือออกประกาศให้ “พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ”ไว้ในรัฐธรรมนูญของประเทศไทย แล้วปัญหาทุกอย่างที่เกิดตลอดมาในเมืองไทยจะคลี่คลายหมดไป ประเทศไทยจะพ้นความอับเฉาก้าวสู่ยุคใหม่ แล้วความทุกข์ยากทั้งหลายจะไม่มี
นับเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่คาดคิดว่าจะมาถึงเร็วขนาดนี้ ญาติโยมก็ระทมทุกข์ที่ไม่มีเงินทำบุญ รายได้ไม่พอใช้จ่ายภายในบ้าน ส่วนพระก็ต้องมาทุกข์กันทั่วประเทศเพราะถูกการเมืองเล่นงาน เลยไม่มีแก่ใจจะเทศน์สอนชาวบ้าน เพราะอนาคตของเจ้าอาวาสเองก็เริ่มไม่มั่นคง
ขอให้เราทั้งหลายย้อนกลับไปคิดถึงชีวิตของเจ้าชายสิทธัตถะ พระองค์ต้องจากพระนางพิมพาราหุลสุดที่รักออกบรรพชาในครั้งนั้น เมื่อทรงตรัสบอกนายฉันนะให้กลับแล้วพระองค์ก็ไม่ทรงเหลือใคร ไม่รู้จะเริ่มต้นใช้ชีวิตอย่างไร ในเมื่อเมื่อวานนี้ยังเคยเป็นเจ้าชายอยู่ท่ามกลางเวียงวัง หากใครคือผู้หนึ่งที่ลาออกจากราชการ ออกจากงานที่มีเกียรติมีรายได้สูงแล้วบวชตอนเป็นหนุ่มสาว อาจจะพอเข้าใจถึงการเริ่มต้นชีวิตใหม่อย่างไร้อนาคตอย่างสิ้นเชิง
วันวิสาขบูชา เหล่าพุทธบริษัทก็อย่าลืมทาน ศีล ภาวนา อันเป็นรากแก้วของชีวิต ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเราก็ต้องตั้งใจบำเพ็ญกันต่อไป จงถือเอาพระรัตนตรัยเป็นหลักชัย ดำรงศรัทธาอันยิ่งใหญ่ ด้วยความมั่นใจว่า อีกไม่นานพายุร้ายก็จะผ่านไปเหมือนเช่นเคย
คุรุอตีศะ
๒๖ พฤษภาคม ๒๕๕๘