ซึมซับธรรมชาติ
- รายละเอียด
- หมวด: คติธรรม/ปรารภธรรม
ซึมซับธรรมชาติ
สายฝนที่กระหน่ำและพร่างพรมลงมาไม่ขาดสาย ได้ช่วยขับไล่ความแห้งแล้งและแสนอบอ้าวออกไป น้ำที่เคยแห้งขอดใกล้ถึงก้นสระ ได้มีน้ำเพิ่มสูงขึ้นให้เต่าปลาได้ดีใจ หญ้าที่แห้งเหี่ยวเหมือนรอวันตาย บัดนี้ก็ชูใบแสดงถึงความสดชื่น เหมือนได้ชีวิตใหม่ที่รอมานาน
เราคือส่วนหนึ่งของธรรมชาติ เราจึงไม่อาจเอาชนะธรรมชาติหรืออยู่เหนือธรรมชาติได้ แม้จะพยายามรดน้ำต้นไม้ รดหญ้าที่เริ่มแห้งเหี่ยวทั้งเช้าและเย็นสักเพียงใด ก็ไม่สามารถทำให้ต้นไม้ใบหญ้าและทั่วบริเวณชุ่มชื้นอย่างแท้จริงได้ เท่ากับความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ ที่ฝนเทมาอย่างเต็มที่เพียงชั่วโมงเดียว ความสดใสชื่นบานของสรรพชีวิตก็มีกันทุกถ้วนหน้าทันที
ยามหน้าแล้ง สรรพชีวิตต่างเผชิญกับความร้อนระอุของสภาพอากาศอย่างเงียบๆ ด้วยความมีศรัทธาและความไว้วางใจว่าอีกไม่นานก็จะเข้าสู่ฤดูฝน เมื่อถึงเวลาฝนก็ต้องตกลงมาให้ความชุ่มฉ่ำในสักวันหนึ่งอย่างแน่นอน ในที่สุดแม้ไม่ต้องสวดมนต์อ้อนวอน เมื่อเหตุปัจจัยแห่งธรรมชาติมีความพร้อม พระพิรุณย่อมโปรยปรายสายฝนและความร่มเย็น
เมื่อท้อแท้หรือเหนื่อยล้าต่อเส้นทางของชีวิต จงน้อมจิตเอาธรรมชาติเป็นธรรมะปลอบประโลมหัวใจดวงนี้ให้มีหวัง ธรรมชาติคอยสอนและปลอบขวัญเราอยู่เสมอว่า “ขอให้จงเปี่ยมด้วยพลัง” เหนื่อยนัก ก็จงหยุดพักไว้ก่อน เมื่อมีเรี่ยวแรงครั้งใหม่ จึงค่อยก้าวไปบนเส้นทาง
ให้ชีวิตร่างกายและหัวใจดวงนี้ ได้มีที่พักผ่อนและทบทวนชีวิตอย่างสงบบ้าง อย่าเอาแต่บุกไปข้างหน้าเพียงอย่างเดียว การนั่งหยุดพักและมองสิ่งต่างๆรอบตัวในบางครั้งก็เป็นสิ่งจำเป็นต่อการดำเนินชีวิตไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน บางครั้งเดินบุกไปข้างหน้าอย่างบากบั่น บางเวลาหยุดทบทวนเพื่อความสุขุมรอบคอบ นี้คือศิลปะของการมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ที่สมบูรณ์
แม้จะร้อนและแห้งแล้งเป็นเวลานานสักเพียงไหน ก็ต้องถึงวันหนึ่งที่ฝนตกลงมาให้ความชุ่มฉ่ำและสดใสทั่วทั้งบริเวณและเข้าสู่ฤดูฝน จงให้ชีวิตของเราได้ผ่านการเคี่ยวกร่ำและผ่านความอดทน ชีวิตก็จะผ่านพ้นความเหนื่อยยากและได้รับน้ำฝนคือความสุขดังต้องการ
คุรุอตีศะ
๑๔ พฤษภาคม ๒๕๕๘