ทำไมบุญไม่ช่วย

ทำไมบุญไม่ช่วย

 

 

 

                 บางครั้งยามท้อแท้ในชีวิตขึ้นมา  หลายคนอาจสงสัยและตั้งคำถามขึ้นมาตามลำพังคนเดียวเงียบๆว่า “ทำไมหนอ อุตส่าห์ทำความดีมาตั้งมากมาย  ในยามที่ตกระกำลำบากเช่นนี้ทำไมบุญไม่ช่วยสักที?”


                 ในยามที่สภาพจิตใจอ่อนแอ  สติปัญญาที่เคยมีก็จะหลบหายไป  ศรัทธาความเชื่อมั่นต่างๆก็อาจเริ่มสั่นไหว  จากเคยเชื่อมั่นในกรรมดี  ก็อาจเกิดความหวั่นไหวเช่นนี้ขึ้นมาได้


                  “บุญ เป็นชื่อของความสุข  ท่านทั้งหลายอย่ากลัวบุญเลย เพราะการสั่งสมบุญย่อมนำความสุขมาให้  ทั้งในโลกนี้และในโลกหน้า”  นี้คือพระดำรัสของพระบรมศาสดา  แล้วเราจะเชื่อใครดีระหว่างเราผู้กำลังตัดพ้อต่อว่าบุญกุศลความดี กับผู้ที่ทรงมีบุญบารมีอย่างเต็มเปี่ยม  จนกระทั่งดวงจิตหลุดพ้นทั้งบุญและบาป ยืนอยู่เหนือกระแสของโลกได้สิ้นเชิงแล้ว


                   หากกล่าวตามหลักพระอภิธรรม  ขึ้นชื่อว่า “บุญ” นั้น  ย่อมคอยค้ำจุนและคอยช่วยเราอยู่เสมอ  บุญกุศลคอยช่วยเหลือเรา แม้ในขณะที่เรากำลังก้มหน้า กอดเข่า เศร้าโศก พร่ำรำพัน ตัดพ้อต่อว่าอย่างไม่มีความเกรงอกเกรงใจบุญอยู่นี้


                    หากบุญไม่ช่วยไว้  เราอาจถูกรถชนตาย  ป่วยตายอย่างกะทันหันโดยไม่ทันไปถึงมือแพทย์ให้เยียวยารักษาได้ทันการ  หากบุญกุศลหรือกรรมดีไม่เกื้อหนุนไว้  เราจะไปไม่ถึงโรงพยาบาลหรือไม่มียารักษาโรคได้อย่างทันการ  ก็เพราะยังมีบุญช่วยอยู่นั่นเอง  จึงทำให้ในวันนั้นและช่วงเวลานั้น  ทำให้หมอคนนั้นเข้าเวรอยู่พอดี  บุญทำให้หมอวินิจฉัยโรคได้ถูกตรงกับอาการและจ่ายยาได้ถูกต้อง  นี้คือตัวอย่างที่ใกล้ตัวที่แสดงว่าบุญได้ช่วยเราไว้ตลอดมา


                      เพราะว่าเรายังมีบุญค้ำจุนอยู่  จึงทำให้เราผู้เป็นสามีภรรยา  แม้จะผิดใจกันบ้าง ระหองระแหงกันบ้าง  แต่ก็สามารถปรับความเข้าใจกันได้ทุกครั้ง  เพราะยังมีบุญค้ำจุนอยู่  เราทั้งสองจึงไม่ได้เลิกรากัน  แม้จะมีปัญหาสารพัน  แต่เราสองคนต่างช่วยกันคัดหางเสือ ช่วยกันพาย  จนผ่านมรสุมและพายุร้าย  จนผ่านอุปสรรคขวากหนามทั้งปวงมาได้  นี้ก็เพราะเราทั้งสองยังมีบุญช่วยค้ำจุนนาวาชีวิตลำน้อยของเราลำนี้ไว้แท้ๆ


                            เพราะเรามีบุญช่วยหนุนส่ง  จึงมีวาสนาได้พบและได้รับโอวาทจากครูบาอาจารย์ผู้ประเสริฐ  หากเราไม่มีบุญอย่างเพียงพอแล้วไซร้  อาจมีผู้ชักนำไปให้พบกับใครที่สอนให้ลุ่มหลงตัวท่านว่าเป็นผู้วิเศษ จนไม่สนใจใยดีต่อครอบครัวเพราะอิทธิพลแห่งการชักจูงใจว่าจะทำให้บรรลุอย่างทันใจในไม่ช้า


                          บุญนั่นเองจึงทำให้พบกับคำสอนที่ทำให้เกิดความหนักแน่น เพราะชีวิตนี้ได้มีวาสนาได้รู้จักตัวสติและตัวปัญญา  บุญทำให้เราพบคำสอนแห่งอริยะ บุญทำให้แคล้วคลาดจากคำสอนที่อ้างว่ากรรมฐาน แต่แฝงด้วยเป็นแนวทางของไสยศาสตร์ที่ทำให้งมงายกับบางสิ่งบางอย่าง  อันทำให้เกิดโมหะความหลงผิดแทนการมีสติรู้สึกตัว  นี้ถือว่าเรามีบุญอันยิ่งใหญ่แล้ว


                          เพราะว่าเรายังมีบุญรักษาอยู่  แม้ว่าชีวิตจะตกต่ำลงมาแต่ก็ยังมีคนช่วยเหลืออุปถัมภ์   บุญทำให้เรายังไม่ถึงขั้นต้องขอทานหรือพลัดหลงไปทำในสิ่งอันเลวร้ายมากกว่านี้

 
                         บุญของเรายังมีมากและช่วยค้ำจุนเรา จึงทำให้แม้จะยากจนลงหรือมีปัญหารุมเร้า  แต่เราก็ยังมีบางสิ่งบางอย่างให้เกิดความอบอุ่นใจ  บางทีในยามที่ชีวิตเป็นเช่นในเวลานี้   เรากลับได้พบกับความรักแท้และความงดงามของชีวิตบางอย่าง  ซึ่งในยามที่ชีวิตเต็มไปด้วยความเพลิดเพลินสนุกสนาน  เรากลับอาภัพที่ไม่เคยได้สัมผัสหรือรู้จักกับสิ่งที่สูงส่งเช่นนี้เลย


                          อย่าให้ความอ่อนแอที่เกิดขึ้นในบางช่วงของชีวิต  มาบั่นทอนทำลายคุณภาพของดวงจิตที่เคยโดดเด่นและงดงามมาก่อนของเราดวงนี้  เมื่ออ่อนแอจงยอมรับความอ่อนแอ แต่จงรักษาใจไว้ทั้งน้ำตา  ไม่ต่อว่าหรือเคียดแค้นต่อชีวิตจนลบหลู่ดูหมิ่นคุณความดี  เพราะบุญกุศลและคุณงามความดีที่เราบำเพ็ญตลอดมา ได้ค้ำจุนและคอยช่วยเหลือเราอยู่อย่างเต็มที่  แม้ขณะนี้ที่เรากำลังร้องไห้และกำลังพร่ำรำพันตัดพ้อต่อว่าสารพัดอยู่ก็ตาม


                       อย่าเร่งรัดหรือบีบบังคับให้บุญมาช่วยด้วยความเอาแต่ใจ หรือตั้งเงื่อนไขเพื่อหวังให้บุญต้องมาช่วย การพยายามกดดันบุญกุศลหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อให้ได้อย่างใจย่อมไม่มีผลอะไร นอกจากมีแต่จะทำให้ตัวเองพบกับความกดดันที่สะท้อนกลับมามากยิ่งขึ้นอีกหลายเท่าตัว


                          แทนที่จะพยายามเร่งรัดว่าเมื่อไหร่บุญจะมาช่วย  จงรีบสร้างบุญกุศลในทันที  โดยไม่เกี่ยงงอนว่าบุญจะช่วยหรือไม่ช่วยเมื่อใด  จะรุ่งเรืองหรือตกต่ำ  ก็จะขอทำความดีและบำเพ็ญทาน ศีล ภาวนาต่อไป  พลังศรัทธาอันยิ่งใหญ่  จะทำให้บุญมาช่วยอย่างอัศจรรย์  โดยที่ไม่ต้องเอ่ยคำอ้อนวอนหรือรอคอยให้บุญมาช่วยเลยแม้แต่นิดเดียว


                          ความศักดิ์สิทธิ์ของบุญกุศลมีอยู่อย่างลี้ลับและลึกซึ้งอยู่ประการหนึ่งว่า  บุญมักจะยังไม่ส่งผลหรือช่วยคนที่ร่ำร้องให้ช่วยในเวลานั้น  แต่บุญจะช่วยอย่างเต็มที่ต่อบุคคลผู้ซึ่งเชื่อมั่นในบุญโดยไม่คิดว่าบุญนั้นจะช่วยเมื่อใด


                            ยิ่งบุคคลใดทำใจให้สบายๆ มีสติรู้ตัวไปเรื่อยๆ ไม่ปล่อยใจไปกับอดีตและอนาคต ไม่วิตกกังวลและเรียกร้องอะไร  บุญจะยิ่งชอบช่วยบุคคลนั้น  นี้คือความน่าอัศจรรย์ของการช่วยเหลือของบุญที่เหนือคำอธิบาย ไม่ว่าจะผ่านมากี่ยุคกี่สมัยตลอดมา

 

                                                                            คุรุอตีศะ
                                                                    ๒๓  เมษายน  ๒๕๕๘