ชีวิตนี้ไม่มีโดดเดี่ยว

ชีวิตนี้ไม่มีโดดเดี่ยว

 

 

 

                  เราไม่ได้อยู่คนเดียวในโลก  โลกนี้ยังปกป้องคุ้มครองและคอยอุดหนุนให้กำลังใจแก่เราเสมอ  จงหันมองรอบตัวจะรู้ว่ายังมีหลายคนและหลายชีวิตมองเห็นคุณค่าและต้องการเรา  แม้บางครั้งจะรู้สึกโดดเดี่ยวและเปลี่ยวเหงา  ก็จะเป็นเพียงช่วงเดียวสั้นๆ  เดี๋ยวความชื่นบานและความมีกำลังใจจะมาแทน


                อย่าให้หัวใจดวงนี้หมองหม่นและจมกับความทุกข์เศร้า  แผ่นดินยังคอยโอบอุ้มและประคองเราให้ยืนอยู่บนโลก  โดยที่เราแทบจะไม่เคยสำนึกในคุณหรือนึกถึงผืนดินที่รองรับเราอยู่นี้  เรายังมีแผ่นฟ้าที่กว้างใหญ่และยืนยงคอยคุ้มศีรษะเราคู่กับพื้นปฐพี  ในยามที่เรารู้สึกไม่เหลือใครเลยนี้  แท้จริงแล้วเรายังมีคนที่รักเราจริงและห่วงใยเราตั้งหลายคน


                อย่าคิดว่าชีวิตนี้มีแต่ความโดดเดี่ยว  ที่โดดเดี่ยวอาจเป็นเพราะเราแยกตัวเองจากสรรพสิ่งโดยขาดการเชื่อมโยง   เราพยายามต่อต้านความจริงเพราะเราหลงว่าเป็นอัตตาว่ามีเรา


                บางคนเห็นแต่ภาพลบในทางศาสนา  รู้สึกว่าศาสนาคงไม่อาจเป็นที่พึ่ง  ก็จงอยู่บ้านไม่ต้องไปวัด  ไม่ต้องทำบุญอะไรในช่วงนี้  แต่ก็อย่าลืมดูจิตดูใจของตัวเองไว้เสมอ

 
                 บางคนในยามนี้ใจอาจต้องการความสงบอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน  ก็จงหันหน้าเข้าวัดปฏิบัติธรรมตามบารมีเดิมของตนที่เริ่มมาเตือน อย่ามัวลังเลอยู่


                 ในยามที่คนกำลังเบื่อหน่ายวัดวาอารามและเบื่อหน่ายไม่อยากทำบุญกับพระแบบนี้  ถือเป็นโอกาสดีที่ความวิเวกเรียบง่ายสมกับเป็นอารามจะได้กลับคืนมา  นี้คือโอกาสของผู้ที่มีวาสนาในทางธรรมที่จะได้บำเพ็ญสมาธิภาวนาโดยตรง


                 ศาสนาและวัดวาอารามที่แท้จริงอยู่ที่ใจของเรานี้   ศาสนาที่แท้จริงคือความสงบแห่งใจย่อมไม่เคยเสื่อมโทรมและไม่เคยเสื่อมหายไปไหน  วัดวาอารามหรือพระในภายนอกหรือจะสูงส่งและศักดิ์สิทธิ์เท่ากับ “พระในใจ”  พระองค์นี้ไม่มีใครมาทำให้เสื่อมไปได้  วัดภายในและพระในใจของเรานี้ยังคงมีรัศมีเปล่งปลั่งและผ่องใสไร้มลทินตลอดเวลา


                    ชีวิตของเราที่แท้จริงไม่เคยจะโดดเดี่ยว  แม้เรานั่งอยู่คนเดียวก็ยังมีเสียงนกกาช่วยขับขาน  ยามเรานั่งเหม่อลอย  บางทีแมวหรือหมาตัวน้อยก็มาขอกินข้าวในจาน  มันคอยส่งสายตาอันน่าสงสารเหมือนจะบอกว่า อย่าไปคิดว่าโลกนี้ไม่มีใคร  อย่างน้อยก็ยังมีมัน


                     อย่าไปคิดว่าอนาคตและชีวิตของเราสูญสิ้นแล้ว  เรายังมีสองขาและสองมือที่จะสร้างสิ่งต่างๆขึ้นมาใหม่  หากสร้างราคาสิบล้านเหมือนเดิมไม่ได้  อย่างน้อยก็สร้างบ้านมุงหลังคาสังกะสีพอได้บังแดดและหลบฝนไปก่อนพอสบายใจ  ไม่ได้กินกระเพาะปลาสูตรพิเศษแถวเยาวราชเหมือนแต่ก่อนอีกก็ไม่เป็นไร  กินไข่เจียวเช้าฟองหนึ่ง  กลางวันไข่ต้ม  ตอนเย็นต้มไข่แถมกับปลากระป๋องอีกหน่อย  ก็อร่อยอย่าบอกใครและหลับสบายดีเหมือนกัน


                     อย่าไปคิดว่าตอนนี้เราอยู่คนเดียวในโลก  โลกใบนี้ยังต้อนรับเราเสมอเพียงแต่ให้พยายามฉีกยิ้มเข้าไว้  แม้จะหน้าชื่นอกตรมอย่างที่คนเขาค่อนแคะ  ก็จะเช็ดน้ำตาแล้วพยายามฉีกยิ้มต่อไป  แม้รอยยิ้มนั้นบางขณะจะปะปนไปกับเสียงสะอื้นไห้ ก็จะฝืนยิ้มต่อไป เพราะนี้คือใบหน้าอันแสนหล่อและแสนสวยของเราคนเดียว ไม่ต้องเสียภาษีหรือเสียเงินทอง


                      หากว้าวุ่นใจยามอยู่คนเดียว  ไม่รู้จะเหลียวหาใคร  จงคว้าเอาผ้าขี้ริ้วข้างฝาที่มองด้วยความรังเกียจดูหมิ่นมาตลอดมาถือไว้เป็นเพื่อน  ผ้าขี้ริ้วที่บอกให้หยิบมาไม่ใช่ให้เอาไปเช็ดน้ำตา  แต่จงเช็ดขอบประตูหน้าต่างหรือถูพื้นเรื่อยไป  พอเหงื่อทางผิวหนัง  น้ำที่ไหลออกทางตาก็จะเริ่มหยุดไหลในทันใด นี้คือกรรมฐานอันศักดิ์สิทธิ์สำหรับคนที่นั่งนอนห้องแอร์แต่ก็ไม่ค่อยเย็นใจ  จงหาวิธีให้เหงื่อออกทางผิวหนัง แล้วน้ำตาจะหยุดไหล  ยาตำรับนี้ได้ผลชะงัดนักแล


                      เราไม่ได้อยู่คนเดียวในโลก  จงจำไว้  เรายังมีแสงแดดสาดส่อง  ยังมีพระจันทร์ส่องแสงนวลใยปลอบประโลมเราอยู่เสมอ  ต้นไผ่ยังล้อลมโอนเอนไหวเพื่อปลอบใจแก่เธอ  แม่พระธรณีคือแผ่นดินนี้ยังโอบอุ้มและรักเธอเสมอ  ชีวิตนี้เธอไม่ได้อยู่คนเดียวเลย

 

                                                                            คุรุอตีศะ
                                                                    ๒๙  มีนาคม  ๒๕๕๘