ชีวิตนี้ไม่มีโดดเดี่ยว
- รายละเอียด
- หมวด: คติธรรม/ปรารภธรรม
ชีวิตนี้ไม่มีโดดเดี่ยว
เราไม่ได้อยู่คนเดียวในโลก โลกนี้ยังปกป้องคุ้มครองและคอยอุดหนุนให้กำลังใจแก่เราเสมอ จงหันมองรอบตัวจะรู้ว่ายังมีหลายคนและหลายชีวิตมองเห็นคุณค่าและต้องการเรา แม้บางครั้งจะรู้สึกโดดเดี่ยวและเปลี่ยวเหงา ก็จะเป็นเพียงช่วงเดียวสั้นๆ เดี๋ยวความชื่นบานและความมีกำลังใจจะมาแทน
อย่าให้หัวใจดวงนี้หมองหม่นและจมกับความทุกข์เศร้า แผ่นดินยังคอยโอบอุ้มและประคองเราให้ยืนอยู่บนโลก โดยที่เราแทบจะไม่เคยสำนึกในคุณหรือนึกถึงผืนดินที่รองรับเราอยู่นี้ เรายังมีแผ่นฟ้าที่กว้างใหญ่และยืนยงคอยคุ้มศีรษะเราคู่กับพื้นปฐพี ในยามที่เรารู้สึกไม่เหลือใครเลยนี้ แท้จริงแล้วเรายังมีคนที่รักเราจริงและห่วงใยเราตั้งหลายคน
อย่าคิดว่าชีวิตนี้มีแต่ความโดดเดี่ยว ที่โดดเดี่ยวอาจเป็นเพราะเราแยกตัวเองจากสรรพสิ่งโดยขาดการเชื่อมโยง เราพยายามต่อต้านความจริงเพราะเราหลงว่าเป็นอัตตาว่ามีเรา
บางคนเห็นแต่ภาพลบในทางศาสนา รู้สึกว่าศาสนาคงไม่อาจเป็นที่พึ่ง ก็จงอยู่บ้านไม่ต้องไปวัด ไม่ต้องทำบุญอะไรในช่วงนี้ แต่ก็อย่าลืมดูจิตดูใจของตัวเองไว้เสมอ
บางคนในยามนี้ใจอาจต้องการความสงบอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ก็จงหันหน้าเข้าวัดปฏิบัติธรรมตามบารมีเดิมของตนที่เริ่มมาเตือน อย่ามัวลังเลอยู่
ในยามที่คนกำลังเบื่อหน่ายวัดวาอารามและเบื่อหน่ายไม่อยากทำบุญกับพระแบบนี้ ถือเป็นโอกาสดีที่ความวิเวกเรียบง่ายสมกับเป็นอารามจะได้กลับคืนมา นี้คือโอกาสของผู้ที่มีวาสนาในทางธรรมที่จะได้บำเพ็ญสมาธิภาวนาโดยตรง
ศาสนาและวัดวาอารามที่แท้จริงอยู่ที่ใจของเรานี้ ศาสนาที่แท้จริงคือความสงบแห่งใจย่อมไม่เคยเสื่อมโทรมและไม่เคยเสื่อมหายไปไหน วัดวาอารามหรือพระในภายนอกหรือจะสูงส่งและศักดิ์สิทธิ์เท่ากับ “พระในใจ” พระองค์นี้ไม่มีใครมาทำให้เสื่อมไปได้ วัดภายในและพระในใจของเรานี้ยังคงมีรัศมีเปล่งปลั่งและผ่องใสไร้มลทินตลอดเวลา
ชีวิตของเราที่แท้จริงไม่เคยจะโดดเดี่ยว แม้เรานั่งอยู่คนเดียวก็ยังมีเสียงนกกาช่วยขับขาน ยามเรานั่งเหม่อลอย บางทีแมวหรือหมาตัวน้อยก็มาขอกินข้าวในจาน มันคอยส่งสายตาอันน่าสงสารเหมือนจะบอกว่า อย่าไปคิดว่าโลกนี้ไม่มีใคร อย่างน้อยก็ยังมีมัน
อย่าไปคิดว่าอนาคตและชีวิตของเราสูญสิ้นแล้ว เรายังมีสองขาและสองมือที่จะสร้างสิ่งต่างๆขึ้นมาใหม่ หากสร้างราคาสิบล้านเหมือนเดิมไม่ได้ อย่างน้อยก็สร้างบ้านมุงหลังคาสังกะสีพอได้บังแดดและหลบฝนไปก่อนพอสบายใจ ไม่ได้กินกระเพาะปลาสูตรพิเศษแถวเยาวราชเหมือนแต่ก่อนอีกก็ไม่เป็นไร กินไข่เจียวเช้าฟองหนึ่ง กลางวันไข่ต้ม ตอนเย็นต้มไข่แถมกับปลากระป๋องอีกหน่อย ก็อร่อยอย่าบอกใครและหลับสบายดีเหมือนกัน
อย่าไปคิดว่าตอนนี้เราอยู่คนเดียวในโลก โลกใบนี้ยังต้อนรับเราเสมอเพียงแต่ให้พยายามฉีกยิ้มเข้าไว้ แม้จะหน้าชื่นอกตรมอย่างที่คนเขาค่อนแคะ ก็จะเช็ดน้ำตาแล้วพยายามฉีกยิ้มต่อไป แม้รอยยิ้มนั้นบางขณะจะปะปนไปกับเสียงสะอื้นไห้ ก็จะฝืนยิ้มต่อไป เพราะนี้คือใบหน้าอันแสนหล่อและแสนสวยของเราคนเดียว ไม่ต้องเสียภาษีหรือเสียเงินทอง
หากว้าวุ่นใจยามอยู่คนเดียว ไม่รู้จะเหลียวหาใคร จงคว้าเอาผ้าขี้ริ้วข้างฝาที่มองด้วยความรังเกียจดูหมิ่นมาตลอดมาถือไว้เป็นเพื่อน ผ้าขี้ริ้วที่บอกให้หยิบมาไม่ใช่ให้เอาไปเช็ดน้ำตา แต่จงเช็ดขอบประตูหน้าต่างหรือถูพื้นเรื่อยไป พอเหงื่อทางผิวหนัง น้ำที่ไหลออกทางตาก็จะเริ่มหยุดไหลในทันใด นี้คือกรรมฐานอันศักดิ์สิทธิ์สำหรับคนที่นั่งนอนห้องแอร์แต่ก็ไม่ค่อยเย็นใจ จงหาวิธีให้เหงื่อออกทางผิวหนัง แล้วน้ำตาจะหยุดไหล ยาตำรับนี้ได้ผลชะงัดนักแล
เราไม่ได้อยู่คนเดียวในโลก จงจำไว้ เรายังมีแสงแดดสาดส่อง ยังมีพระจันทร์ส่องแสงนวลใยปลอบประโลมเราอยู่เสมอ ต้นไผ่ยังล้อลมโอนเอนไหวเพื่อปลอบใจแก่เธอ แม่พระธรณีคือแผ่นดินนี้ยังโอบอุ้มและรักเธอเสมอ ชีวิตนี้เธอไม่ได้อยู่คนเดียวเลย
คุรุอตีศะ
๒๙ มีนาคม ๒๕๕๘