ปรารภธรรม:กระแสของโลก

 กระแสของโลก

 

 

                     ความทุกข์ทรมานของผู้คนสมัยปัจจุบัน ส่วนใหญ่ทีเดียวมักมาจากความรัก ซึ่งความรักในความหมายนี้คือความใคร่ความเสน่หา ที่ผูกพันหญิงและชายให้ต้องว่ายวนอยู่ในกระแสของโลก จนไม่รู้จะหาทางออกอย่างไร


                     บางคนก็ตัดสินใจใช้อารมณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นชั่ววูบด้วยความขาดสติในตอนนั้นทำความผิดพลาดอันใหญ่หลวงลงไป ส่งผลให้ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตสูญสิ้นในพริบตา


                     ผู้ที่ทำความผิดพลาดอย่างร้ายแรงในชีวิตด้วยอารมณ์ชั่ววูบ แต่เดิมก็คือคนดี มีความรับผิดชอบ มีสำนึกผิดชอบชั่วดีเหมือนคนทั่วไปนั่นเอง แต่ที่ต้องถึงขั้นทำลายชีวิตผู้อื่นทั้งที่ผู้หญิงคนนั้นก็เป็นคนที่ตนรักและหวงแหนมาก่อน ก็เพราะความ “ขาดสติ”ในขณะนั้น


                     นี้คือความสำคัญของการปฏิบัติธรรมหรือการเจริญสติสมาธิภาวนา เพราะไม่รู้ว่าเราเองจะเป็นผู้ขาดสติเช่นบุคคลเหล่านั้นขึ้นในวันใดหรือไม่


                     สิ่งที่จะช่วยเป็นเกราะคอยปกป้องคุ้มครองใจ ไม่ให้เผลอสติทำในสิ่งที่ผิดพลาดเช่นนั้นก็คือการหมั่นเจริญสติไว้เสมอ ด้วยความไม่ประมาท และต้องหมั่นสร้างกุศลความดีไว้ทุกวัน จิตใจจึงจะมีภูมิคุ้มกันที่เข้มแข็ง เมื่อมีเหตุการณ์ใดหรือสิ่งใดมากระทบจิตใจ กำลังสติก็จะป้องกันจิตของเราให้ปลอดภัยและสงบมั่นคงอยู่ได้


                     ขอฝากข้อคิดไปยังสตรีทั้งหลาย ที่บางคนอาจอยู่ในฐานะลำบากใจที่ตนเองไม่มีทางออก ซึ่งสมัยปัจจุบันสตรีที่อยู่ในฐานะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเพราะความรักนั้นมีมาก


                     หากเรามาทราบภายหลังว่าเราไปรักผู้ชายที่มีเจ้าของแล้ว แล้วอยากถอนตัวออกจากภาวะเช่นนั้น ต้องมีความแยบคายอย่างมากดุจการพยายามปีนป่ายขึ้นจากหุบเหว ขอจงสร้างกำลังใจให้แก่ตัวเอง ตั้งสติ และต้องมีดวงจิตที่เด็ดเดี่ยวตั้งมั่นไว้ในใจก่อน แล้วหมั่นไปสร้างกุศลติดต่อกันอย่างสม่ำเสมอ อธิษฐานจิตเพื่อให้พ้นจากภาวะเช่นนี้เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่


                     หากมีความสัมพันธ์ในขั้นลึกซึ้งถึงขั้นทางร่างกาย อันดับแรกจงอย่าแสดงอาการตีจากเขาอย่างหักหาญหรือเอาแต่ใจด้วยความคิดว่าเราเป็นผู้หญิงสมัยใหม่ อย่าไปคิดง่ายๆเช่นนั้น เพราะผู้ชายแม้เขาจะมีภรรยาเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว แต่เขาจะไม่มีทางปล่อยเราไปง่ายๆ นี้คือความเห็นแก่ตัวของผู้ชายทุกคน ย่อมหาทางพยายามครอบครองไว้จนนาทีสุดท้าย


                     อันดับแรกที่ผู้หญิงจะต้องตีจากให้ได้ก่อน ก็คืองดเว้นความสัมพันธ์ทางกาย โดยอย่าให้เขามามีความสัมพันธ์กับร่างกายของเราให้ได้อย่างน้อยสามเดือน แล้วค่อยๆบอกเขาตามตรงว่าไม่อยากมีชีวิตตกอยู่ในฐานะเช่นนี้ “ขอโอกาสให้ได้ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่เถิดนะ”


                     สิ่งที่สำคัญก็คือ ในระหว่างนั้นอย่าเพิ่งไปคบผู้ชายคนใหม่อันจะทำให้เขาเกิดความหึงหวง ผู้ชายบางคนในยามปกติก็เป็นคนดีมีความสุภาพ แต่ก็เกิดความคลุ้มคลั่งอย่างน่ากลัวได้เสมอเพราะพิษรักแรงหึง ผู้หญิงจึงอย่าใช้วิธีกดดันให้เขาเลิกกับภรรยาของเขาก่อน เมื่อเขาจัดการเรื่องครอบครัวเขาไม่ได้ ก็ใช้วิธีประชดโดยการไปสนิทสนมหรือควงผู้ชายคนใหม่โดยไม่ใสใจใคร วิธีเช่นนี้ห้ามทำเด็ดขาด เพราะมักลงเอยด้วยความรุนแรง ชีวิตและอนาคตอาจย่อยยับได้ทั้งคู่


                     ผู้หญิงสมัยใหม่ ไม่ว่าจะมีความมั่นใจในตัวเองสักเพียงใด จงระลึกว่า สำหรับเรื่องอาชีพหน้าที่การงาน เราอาจใช้เหตุผลและความสามารถแบบผู้ชาย อันเป็นส่วนของสมองฝั่งซ้ายได้ แต่สำหรับเรื่องการแก้ปัญหาชีวิตหรือปัญหาความรัก เราต้องใช้วิถีแห่งความรัก  อันเป็นคุณภาพของสมองฝั่งขวาที่สวรรค์ประทานมาให้แล้วคู่กับผู้หญิงทุกคน

 

                     ดังนั้น ขอให้ตระหนักและหันมาใช้คุณสมบัติแห่งความเป็นแม่ ความมีเมตตาและความเอื้ออาทร แต่เด็ดเดี่ยวอยู่ในที ในการแก้ไขปัญหาหัวใจ แล้วชีวิตจะพบกับความสดใสสำหรับช่วงชีวิตถัดจากนั้นไป


                     เมื่อเราเข้มแข็งและมั่นคงจนเกิดความห่างเหินทางร่างกายได้แล้ว ต่อจากนั้นผู้ชายจะเริ่มเกิดจิตสำนึกที่ดีงาม แล้วความเป็นสุภาพบุรุษของเขาจะเกิดขึ้นในใจ สติของเขาจะกลับคืนมาหลังจากมืดมัวมานาน และเขาจะเห็นความตั้งใจของเราในการต้องการมีชีวิตใหม่ ในที่สุดเขาก็จะปล่อยให้เราไปใช้ชีวิตใหม่ด้วยท่าทีแห่งการยอมรับและด้วยความภูมิใจ แล้วเราทั้งสองก็จะยังเคารพนับถือน้ำใจกันไปตลอดแม้จะเดินกันคนละทางแล้ว


                     จงระลึกถึงความแตกต่างระหว่างผู้หญิงกับผู้ชายไว้ว่า ผู้ชายนั้นมีความหนักแน่นอดทนในทางอารมณ์ในเรื่องความรักน้อยกว่าผู้หญิง ผู้หญิงจะอดทนและมีสติได้มากกว่าเมื่อสามีควงผู้หญิงอื่นให้เห็น แต่สำหรับผู้ชายแล้ว การเห็นผู้หญิงของตนอยู่กับผู้ชายอื่น แทบทุกคนจะหมดความยับยั้งชั่งใจและตกอยู่ในภาวะ “สติขาดในทันที” โดยไม่เกี่ยวกันเลยว่าตัวเขาเองจะมีลูกมีภรรยาอยู่แล้วหรือไม่ก็ตาม


                     ความรักความใคร่ความเสน่หา ย่อมเป็นธรรมดาที่มักจะนำความหึงหวง ความวิตกกังวลหรือความทุกข์ร้อนมาให้ไม่ว่าชายหรือหญิง ท่านจึงพยายามแนะนำให้หมั่นสร้างทานบารมี หมั่นบำเพ็ญศีล หมั่นเจริญภาวนา เพื่อเสริมสร้างพลังชีวิต คอยประคองสติให้เกิดขึ้นในใจ อำนาจเสน่หาอันรุนแรงในตอนต้นนั้นก็จะพัฒนาไปสู่ความรักที่สูงขึ้นทีละน้อย


                      อานุภาพแห่งทานศีลภาวนานี้เอง ที่จะทำให้ความรักค่อยๆสะอาดและสูงส่งขึ้นตามลำดับ เข้าสู่ความรักแท้ ที่กลายเป็นพลังแห่งปีติและพลังสร้างสรรค์ เป็นความรักที่แม้ไม่ต้องอาศัยร่างกาย แต่ความรักอันงดงามและสดใส ก็จะยังคงสถิตอยู่ในหัวใจตลอดไป

 


                                                                                 คุรุอตีศะ
                                                                         ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘