ปรารภธรรม:ชีวิตที่ผ่อนคลาย
- รายละเอียด
- หมวด: คติธรรม/ปรารภธรรม
ชีวิตที่ผ่อนคลาย
จงมีชีวิตที่ผ่อนคลาย ให้ความเป็นธรรมชาติของตัวเราเบ่งบานอย่างเต็มที่ อย่าให้กฎเกณฑ์และบรรทัดฐานทางสังคมบางอย่างมาบีบคั้นให้เราต้องกลายเป็นใครที่ไม่ใช่ตัวเรา ให้มีสติตื่นรู้ไว้เสมอ ชีวิตจะเต็มไปด้วยความผ่อนคลายและมีความดีงามเป็นธรรมชาติไปเอง
หากมีอุปนิสัยที่ร่าเริงเบิกบานเป็นธรรมชาติในตัวเองอยู่แล้ว ไม่จำเป็นอะไรที่เราจะต้องไปสร้างบุคลิกหรือวางมาดให้ดูเคร่งขรึม เพียงมีสติรู้กาลเทศะว่าเวลาไหนควรเงียบสงบสำรวมระวังให้เกียรติผู้อื่นตามธรรมเนียมก็เป็นความงดงามแล้ว เรียกว่าใช้ชีวิตแบบมีเสรีภาพแต่ก็ประกอบด้วยความรับผิดชอบในตัวเอง สติที่อยู่คู่ตัวนั่นเองจะช่วยจัดสรรชีวิตอย่างลงตัว
ธรรมะส่วนใหญ่ที่เราได้ฟังในเทปในซีดี หรือได้อ่านในหนังสือของครูบาอาจารย์รุ่นก่อน เป็นธรรมะที่ท่านแสดงพระธรรมเทศนาอบรมพระเณรแล้วก็มีคนอัดเสียงของท่านไว้ ธรรมะเหล่านั้นท่านใช้อบรมบุคคลที่กายหลีกออกแล้วดุจขอนไม้พ้นน้ำ แต่จิตยังอาลัยในกาม ท่านจึงสอนให้เห็นทุกข์โทษของกามตามหลักธรรมฝ่ายเถรวาทที่มุ่งความหลุดพ้นเป็นสำคัญ
ธรรมะที่สอนและอบรมให้เห็นโทษของกาม ต้องสอนกับบุคคลที่เข้ามาบวชในศาสนาแล้วยอมตนเป็นศิษย์อยู่ในสำนักเพื่อมุ่งสู่ความหลุดพ้น แม้ชาตินี้ไม่หลุดพ้นก็จะมีอานิสงส์เนกขัมมะบารมีติดตามตนไปสู่ภพหน้า ท่านจึงสอนอย่างให้เห็นความเลวร้ายของกามเพื่อศิษย์ทั้งหลายจะได้ก้าวผ่านความเป็นหนุ่ม โดยไม่ต้องออกไปมีครอบครัวให้ได้ตลอดรอดฝั่งจนตายในผ้าเหลือง อย่างน้อยก็ต้องได้ปฐมฌานเพื่อเป็นความอบอุ่นใจ บางรูปมีปัญญาก็จะเป็นพระโสดาบันเป็นขั้นต่ำ นี้คือธรรมะส่วนใหญ่ของหลวงปู่ครูบาอาจารย์ยุคที่ผ่านมา
ส่วนธรรมะที่เขียนในเว็บไซต์เกพลิตานี้ มุ่งเพื่อช่วยเหลือคนยุคใหม่ที่มีวาสนาบารมีสัมพันธ์ต่อกันมาแต่เก่าก่อน และเมื่อประเมินดูแล้วคงจะมีน้อยมากที่จะเป็นพระหรือนักบวชผู้มีกายหลีกออกห่างแล้วจากกามารมณ์ที่เข้ามาอ่าน ส่วนใหญ่น่าจะเป็นพวกที่กำลังลอยคอเกือบจะจมอยู่ในกระแสเชี่ยวกรากของสังคม อย่างน้อยก็น่าจะเป็นพวกที่เคยหลงใหลในกามารมณ์และนิยมยกย่องความสุขชนิดนี้ตามยุคสมัยใหม่ที่เรียนเพศศึกษาในโรงเรียน
เพราะห่วงใยลูกหลานในอดีตซึ่งมีบุญสัมพันธ์กันมาก่อน ที่เกิดมายุคนี้ซึ่งวัฒนธรรมประเพณีสมัยก่อนยับยั้งพวกเขาไว้ไม่ค่อยได้นี่แหละ จึงต้องมานั่งหลังขดหลังแข็งพิมพ์หนังสือจิ้มทีละตัวเพื่อคอยเตือนสติแก่พวกเขา เพราะเป็นยุคที่มีคอมพิวเตอร์สามารถเชื่อมโยงได้ทั่วโลก ใครเข้ามาอ่านก็ถือว่าเป็นญาติเป็นลูกหลานในทางธรรมของเรา
ใครที่ยังสติดีและยังไม่ถูกไฟเผา ก็อย่าเพิ่งหลวมตัวให้ไฟต้องแผดเผา เมื่อทำตามประเพณีอันดีงามได้ ก็จงเดินไปตามถนนที่ปลอดภัยที่ท่านมอบไว้ให้ ส่วนบุคคลใดถูกไฟลวกไฟเผามาแล้ว ธรรมะเหล่านี้ก็จะได้ช่วยบรรเทาและดูแลรักษาให้หาย กลายเป็นคนใหม่ขึ้นมา
ด้วยเหตุนี้ธรรมะในเกพลิตาจึงมักกล่าวถึงความรักอยู่บ่อย เพราะปรารถนาจะเป็นกำลังใจต่อผู้แสวงหาความรักอันแท้จริงอันสูงยิ่งขึ้นไปกว่าเพียงแค่ความต้องการความเสน่หา แต่เนื่องจากคนส่วนใหญ่มีชีวิตที่แท้จริงอยู่กับรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัสอยู่แล้ว ไม่ได้เป็นพระหรือนักบวชแต่อย่างใด ผู้เขียนจึงพยายามถ่ายทอดจากใจสู่ใจโดยไม่ได้คำนึงว่าตัวเองเป็นพระหรือไม่ ขอเพียงให้ทุกคนมีกำลังใจในการพัฒนาจิตวิญญาณภายในอันสูงส่งของตัวเอง
หากเราคือคนหนึ่งที่ดำรงชีวิตจริงในเพศฆราวาส จงระวังอย่าไปฟังหรือไปอ่านธรรมะที่ท่านมุ่งเทศน์หรือสอนอบรมพระหรือนักปฏิบัติที่ใช้ชีวิตอยู่ในสำนักให้สับสน จงน้อมใจตามกระแสธรรมที่เขียนไว้ในหนังสือ "มีดอกบัวจึงมีโคลนตม" หรือธรรมะที่เขียนมาตามลำดับตั้งแต่ต้น ที่มีอยู่ในลานธรรมมาเกือบสองปีแล้ว จะได้มีกำลังใจสร้างสรรค์สิ่งดีงาม
ธรรมะที่สื่อออกไปส่วนใหญ่ไม่ใช่ธรรมะแบบว่า "ต้องให้ไปปฏิบัติ" แต่ในนั้นมีทั้งปริยัติและปฏิบัติ และออกจากจิตสู่จิตแก่ผู้สดับด้วยความเคารพอยู่ในตัวอยู่แล้ว แม้เป็นพระหรือนักบวชได้อ่านก็อาจเกิดสมาธิจิตหรือปล่อยวางได้ในทันที ธรรมะเช่นนี้เป็นคนละมิติกับธรรมะที่เราคุ้นเคยมาก่อน เพราะมุ่งสอนคนในยุคใหม่ที่มีพื้นฐานจิตใจและมีการใช้ชีวิตแตกต่างกัน
ธรรมะของครูบาอาจารย์รุ่นก่อน เราจะคุ้นเคยกับการที่ท่านสอนให้"เร่งปฏิบัติ"แทบจะทั้งหมด นั่นคือวิธีการสอนแบบเอาอัตตานำหน้าไปก่อนเพื่อให้คนมีความเพียร แต่ธรรมะที่พยายามถ่ายทอดนี้จะสอนว่า "ไม่ต้องปฏิบัติให้เกิดความเคร่งเครียด แต่จงมีชีวิตที่ผ่อนคลายเข้าไว้"
คนรุ่นก่อนเป็นผู้ไม่ค่อยได้อ่านหนังสือและมีศรัทธาเต็มร้อย ท่านก็สอนให้เกลียดบาปและความชั่วว่าจะได้ไม่ตกนรกอเวจี แต่มาถึงยุคสมัยนี้ ผู้คนทุกข์ระทมสับสนกับความชั่วและความดีเป็นชีวิตประจำวันอยู่แล้ว สมควรที่จะให้หัวใจมีที่พึ่ง จงวางเสียทั้งความชั่วและความดีขณะนี้ นั่นแหละคือสวรรค์ที่เกิดขึ้นบนโลกในทันที ด้วยความมีสติ รู้ ตื่น และเบิกบาน
เด็กและเยาวชนส่วนใหญ่ หัวใจของเขาไม่ค่อยได้มีความผ่อนคลายตั้งแต่เด็ก ต้องแข่งขันกัน มีชีวิตที่เต็มไปด้วยความเคร่งเครียดและกดดันตั้งแต่เล็กเมื่อเข้าสู่โรงเรียนแล้ว ต้องเรียนหลายวิชาและมีกิจกรรมต่างๆไม่เคยได้นั่งพักให้สบาย ไม่เหมือนคนสมัยก่อนกลับจากโรงเรียนยังได้ลงสู่ท้องนากว้างและได้เลี้ยงควาย สมองได้พักจึงปลอดโปร่งและสติปัญญาดี
ความกดดันและความเคร่งเครียดที่เรียนหนังสืออย่างหนักตั้งแต่อนุบาล เด็กจึงมีหัวใจที่ตายด้านและหมดความมีชีวิตชีวาตั้งแต่ตอนนั้น หากมีครอบครัวที่อบอุ่นหากจะออกนอกทางพ่อและแม่ก็ยังสามารถที่จะป้องกันได้ทัน แต่สำหรับเด็กที่ขาดความอบอุ่น ขาดพ่อหรือขาดแม่นั้น หากไม่ดำรงชีวิตในทาน ศีล ภาวนา เขาจะแสวงหาความสุขในทางเพศเป็นการชดเชย
นี้คือปมปัญหาของสังคมที่ไม่ค่อยมีใครคิด เอาแต่เรียนเพศศึกษาเพื่อคุมกำเนิดแต่ไม่เคยตระหนักถึงหัวใจของเด็กและเยาวชนว่าพวกเขาขาดความสุข หากหัวใจเขาอบอุ่นและเติบโตขึ้นมาท่ามกลางความรัก เรื่องความเสียหายในทางเพศจะไม่เกิดขึ้นเป็นปัญหาของสงคม
เพราะชีวิตที่มีความกดดันมากและขาดความรักมาก จะทำให้มีความต้องการทางเพศมากเป็นเงาตามตัว เนื่องจากหัวใจส่วนลึกต้องการความรักความอบอุ่น แต่เมื่อหัวใจของเขาไม่เคยรู้จักความรักว่าคืออะไร ไม่ว่าหญิงหรือชาย ไม่ว่าจะเคยเป็นเด็กดีหรือเคยเป็นคนดีในสายตาของสังคมมาก่อนแค่ไหน จึงมีโอกาสพลาดพลั้งหรือตกเป็นทาสอารมณ์ทางเพศได้เพราะสติของเขายังไม่แก่กล้าเพียงพอ
นี้คือเบื้องหลังประการสำคัญ ที่ต้องยอมเปลืองตัวพูดเรื่องเกี่ยวกับความรัก เพื่อช่วยเหลือประคับประคองลูกหลานที่ตกจมในกระแสโลก ให้รู้จักตัวเองและมีสติในการเติบโตต่อไปในวันข้างหน้า ข้อเขียนเหล่านี้บางคนอาจเห็นว่าเป็นธรรมะพื้นๆธรรมดา แต่อีกห้าปีหรือสิบปีข้างหน้าจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อลูกหลานหญิงชายในยุคต่อไป
บุคคลใดที่ชีวิตจริงของเราเป็นฆราวาส จงใช้ชีวิตของเราไปตามธรรมชาติ จงบริโภคกามด้วยความเป็นผู้มีสติรู้ทัน กามารมณ์ของผู้ที่มีใจมั่นคงในพระรัตนตรัยนั้น จะเกิดการพัฒนาไปสู่ความรักแท้อันอบอุ่นภายใน จากนั้นจึงอาศัยความรักไปสู่การรู้แจ้งในชีวิต
บุคคลใดในอดีตชาติเคยบวชหรือมาจากภูมิที่สูง จิตใจจะมีหิริโอตตัปปะสูง มักมีความละอายในเรื่องทางเพศอยู่ประจำนิสัย เพราะเป็นสิ่งที่ไม่คุ้นเคยมาก่อนในอดีตเหมือนคนทั่วไป ขอให้ดำรงชีวิตตามหลักไตรสิกขาและเจริญสติต่อไปโดยไม่ต้องใส่ใจในกามคุณ
จงก้าวข้ามเปือกตมคือกามนี้ไปตามบารมีที่สร้างไว้มาเก่าก่อน อย่าอาลัยอาวรณ์ต่อสิ่งที่ร้อยรัดดวงจิตนี้ไว้มาหลายร้อยหลายพันชาติ จงก้าวเดินสู่วิถีแห่งอภิญญาตามอย่างครูบาอาจารย์รุ่นเก่าท่านเทิดทูนไว้ในใจ หากสละออกบวชช่วยจรรโลงรักษาพระศาสนาได้ จะได้ช่วยสืบอายุพระศาสนาตามอย่างพระมหาเถระทั้งหลาย นี้คือวิถีชีวิตสำหรับบางคนที่เกิดมา
สำหรับบุคคลที่น้ำใสใจจริงของตัวเองในส่วนลึกแท้จริงแล้ว ใจต้องการกามารมณ์หรือความรัก จงใช้ชีวิตในท่ามกลางความรักอย่างปราศจากความลังเลสงสัย จงมีความสุขอย่างเต็มที่พร้อมกับมีสติคอยดูแลใจ จะทำให้ไม่งมงายหมกมุ่นหลงใหลในความรักความใคร่มากเกินไป จิตจะยังรักษาความเป็นกลางไว้ได้ ชีวิตจะปลอดภัยเกิดความสดใสและเบิกบาน
ชีวิตของคนเราแต่ละคนมาจากภพภูมิหรือมิติแตกต่างกัน จะให้แต่ละคนปฏิบัติเหมือนกัน ชอบเหมือนกันย่อมเป็นไปไม่ได้ บางคนชอบการนั่งสมาธิ บางคนชอบทำการงานเพื่อเกื้อกูลคนอื่น บางคนต้องการและโหยหาความรักอยู่ข้างใน การให้ธรรมะจึงต้องให้เหมาะกับอุปนิสัย เหมือนกับการจ่ายยาแก่คนไข้แต่ละคนของหมอและเภสัชกรในโรงพยาบาล
ใช้ชีวิตที่เป็นตัวเราอย่างแท้จริงให้มากขึ้น หากมิได้เป็นพระหรือนักบวช จงอยู่กับความร่าเริงเบิกบานสนุกสนานไปตามวัยหรือตามนิสัย หากมีความรักผ่านเข้ามาก็จงเปิดประตูต้อนรับอย่างเป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องรู้สึกผิดอะไร ความรักของผู้เจริญสติอยู่เป็นอุปนิสัย จะไม่พากันตกจมลงไปเหมือนคนทั้งหลายที่เขาไม่เคยได้สดับธรรมอย่างแน่นอน
บางคนไม่มีวิบากกรรมเรื่องความรัก จิตใจจะมั่นคงแจ่มใสและเป็นคนมีศักยภาพในตัวเองมาก บุคคลชนิดนี้จะมีความรักความเมตตาอันสูงส่งอยู่แล้วเป็นธรรมชาติและชอบช่วยเหลือเกื้อกูล บุคคลชนิดนี้ไม่ต้องไปนั่งสมาธิเพื่อกดข่มอารมณ์ แต่ให้เจริญสติไปตามธรรมชาติ มีสติระลึกรู้ไปพร้อมกับการทำงาน จะมีทั้งสมาธิ ทั้งความรัก ความเบิกบานอยู่ในตัว
จงใช้ชีวิตอยู่กับความเป็นจริงและผ่อนคลายให้มากขึ้น ความผ่อนคลายนั้นเองจะทำให้หัวใจที่หนักอึ้งมานานได้รับการพักผ่อน ได้สัมผัสกับอิสรภาพ สัมผัสกับชีวิตใหม่
ใจที่ผ่อนคลายนั้นเองจะทำให้อาณาจักรแห่งความรักแท้อุบัติขึ้นในดวงใจ ความระหกระเหินทางจิตวิญญาณและความกดดันในชีวิตแม้จะสะสมหรือเคยมีมามากเพียงใด เราจะได้ความไร้เดียงสากลับคืนมาใหม่ ด้วยหัวใจที่ผ่อนคลายและเปี่ยมด้วยความรักตลอดกาล
คุรุอตีศะ
๒๐ มกราคม ๒๕๕๘