ปรารภธรรม:โลกยังเป็นของเรา
- รายละเอียด
- หมวด: คติธรรม/ปรารภธรรม
โลกยังเป็นของเรา
เสียงโพระดกร่าเริงยามเช้า ความหนาวเย็นทำให้สรรพสิ่งดำรงอยู่อย่างเงียบสงบ น้ำค้างบนยอดหญ้าเช้าวันนี้ดูสดชื่นและชุ่มฉ่ำกว่าทุกวัน เสียงไก่ขันดังกังวานรับอรุณมาแต่ไกล ท้องฟ้าอันสดใสยังคงปกป้องและคุ้มครองเราเช่นทุกวัน
เหตุใดจึงจะปล่อยให้ชีวิตใหม่ในวันนี้อยู่กับความหมองเศร้า โลกใบนี้ยังคงเป็นของเราและคอยปลอบประโลมอย่างมั่นคงอยู่เสมอ อย่าปล่อยใจให้ดิ้นรนและกังวลเพื่อแสวงหาความเลิศเลอ ดวงตะวันยังคงส่องแสงอย่างสัตย์ซื่อต่อตัวเธอ จงยอมรับเอาความสุขที่ชีวิตมอบให้อยู่เสมอทุกนาทีและวันวาร
ความทุกข์ใดๆผ่านเข้ามาอีกไม่นานก็ผ่านไปแล้ว ยังมีหลายสิ่งหลายอย่างให้มือน้อยๆคู่นี้ช่วยสร้างสรรค์และทำประโยชน์ให้แก่โลกใบนี้ อย่าเอาหัวใจไปฝากไว้กับวัตถุหรือเงินทองจนเหนือกว่าการสร้างกุศลคุณความดี ชีวิตคนอยู่ไม่นานถึงร้อยปีก็ล้วนต้องพลัดพรากลาจากกัน
ความรักความผูกพันตามประสาโลกก็พึ่งพาอาศัยกันได้ระดับหนึ่ง แต่ที่พึ่งเหล่านั้นยังเต็มไปด้วยความคลอนแคลนและกลายกลับให้เรามองเห็นอยู่เสมอ พระพุทธองค์จึงทรงสอนว่า "รักและผูกพันในสิ่งใด ก็ย่อมทุกข์และวิตกกังวลเพราะสิ่งนั้น" จนกว่าใจดวงนี้จะหยั่งลงสู่กระแสพระนิพพานจึงจะพบกับที่พึ่งอันปลอดภัยและวางใจได้อย่างแท้จริง
ในระหว่างที่เราต่างพากันเดินบนเส้นทางแห่งชีวิต จึงจำเป็นต้องดำรงจิตเอาพระธรรมเป็นที่พึ่งเป็นหลักของชีวิตไว้ มีสติไม่ประมาทไม่ว่าจะพบกับความรุ่งโรจน์และรุ่งเรืองสักเพียงใด มีสติประคองใจยามผิดหวังและท้อแท้ ตระหนักรู้และปล่อยวางสิ่งทั้งปวง
อย่าให้ใจอันบอบบางและงดงามดวงนี้ ต้องบอบช้ำเพราะความดันทุรังเกินไปนัก จงรู้จักให้โอกาสแก่ตัวเองและผ่อนสั้นผ่อนยาวตามสมควรแก่เรื่องราวต่างๆ เมื่อเคร่งเครียดเกินไป ก็จงถอยกลับมาตั้งสติแล้วรู้จักการปล่อยวาง ยามอ้างว้างจงตระหนักรู้และมองหาความสดใสให้พบแล้วความอบอุ่นภายในจะมาเยือน
แม้นว่าจะประสบพบกับการขึ้นลงของชีวิตสักกี่ครั้ง ขอจงเชื่อมั่นและศรัทธาว่าโลกใบนี้ยังเป็นของเราอยู่เสมอ เพียงแต่เรามัวไปดื้อรั้นเพื่อให้ได้ดั่งใจในบางสิ่งมากเกินไป จนลืมมองเห็นความสวยงามของสรรพสิ่งที่อยู่รอบตัว ไม่เคยมองความงามของท้องฟ้าอันกว้างไกล ไม่เคยนั่งนิ่งๆอยู่กับความเงียบฟังเสียงไก่ขันด้วยความรู้สึกตัว
เราได้ใช้หัวใจอันบอบบางน้อยๆดวงนี้ ไปสาละวนกับเหตุการณ์และเรื่องราวต่างๆ จนลืมหัวใจดวงนี้ไปนานมากแล้ว แม้ความบอบช้ำภายในจะกลั่นออกมาเป็นน้ำตาสักกี่ครั้ง เราก็ยังไม่เคยเฉลียวใจและรับรู้
ต่อไปนี้จงให้ความสำคัญกับหัวใจของตัวเอง หมั่นตระหนักรู้และเฝ้าดู โลกใบนี้ยังคงงดงามและเป็นเพื่อนเราอยู่ ไม่เคยทอดทิ้งเราเลยแม้แต่วินาทีเดียว
เปิดหัวใจให้กว้างขวางออกไป แล้วมองให้เห็นความงามของโลกนี้และสรรพสิ่ง หัวใจจะเริ่มสัมผัสกับความสงบและพบกับความนิ่งเป็นหนึ่งเดียวที่เราไม่เคยพบมาก่อน
ใจจะเป็นอิสระโปร่งเบาไม่หลงเหลือความอาลัยอาวรณ์ ใจดวงนี้จะได้รับการพักผ่อนและมีพลังชีวิตที่สถิตอยู่ในใจไปนานแสนนาน
คุรุอตีศะ
๒๐ ธันวาคม ๒๕๕๗