ปรารภธรรม : อยู่คนเดียว
- รายละเอียด
- หมวด: คติธรรม/ปรารภธรรม
อยู่คนเดียว
บ่อยครั้งเวลาเราอยู่ท่ามกลางผู้คน เรามักจะสูญเสียพลังงานไปอย่างมากในการทำให้ผู้คนรอบข้างมีความสุข ต้องทำให้เขาหัวเราะยิ้มได้ ต้องคอยปลอบประโลมหรือเยินยออีโก้หรืออัตตาของพวกเขา หรือไม่ก็ต้องใช้พลังงานไปกับการคอยอ่านอารมณ์และการมีปฏิสัมพันธ์
การกระทำเพื่อเอาใจผู้คนหรือสังคมเช่นนั้น มักจะดูดพลังงานไปจากจิตใจของเราจนหมด ทำให้เกิดอาการล้าหรืออ่อนเพลียโดยไม่ได้ทำงานหนักหรือแบกหามอะไร หากเราได้อยู่คนเดียวโดยการตระหนักรู้อยู่กับตัวเองเสียบ้างก็จะดีไม่น้อยเพื่อจะทำให้ได้เติมเต็มพลังงานของเรากลับคืนมาดังเดิม การได้อยู่คนเดียวจะทำให้เหมือนได้ชาร์ตแบตเตอรี่ให้ตัวเองอย่างดี
การอยู่คนเดียว จะทำให้มีโอกาสย้อนกลับไปคิดทบทวนเรื่องราวต่างต่างๆในชีวิตได้มากขึ้น ชีวิตของคนเราไม่เคยหยุดอยู่กับที่และเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ดังนั้น หากเราได้อยู่คนเดียว ก็จะเป็นโอกาสอันดีเยี่ยมที่จะได้อยู่กับตัวเองแล้วคิดทบทวนเรื่องราวและเหตุการณ์ต่างๆที่ผ่านมาได้อย่างถี่ถ้วน สติปัญญาและความเข้าใจในชีวิตจะเกิดขึ้น
เมื่อเราได้ปลีกตัวออกสู่ความวิเวกหรือได้อยู่คนเดียว เราก็ไม่ต้องมาเสียเวลาในการคอยคำนึงถึงความคิดและความรู้สึกของผู้คนรอบข้าง ทำให้จิตเป็นสมาธิและมีเวลามากขึ้นในการที่จะมองเข้ามาข้างในใจของเราเอง ช่วงเวลาที่โดดเดี่ยวจึงคือช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการที่จะค้นพบและรู้จักตัวเอง
การได้อยู่คนเดียวจะทำให้เข้าใจอารมณ์และความรู้สึกของตัวเองมากขึ้น การถูกรายล้อมด้วยคนรอบข้างตลอดเวลา เราก็มักใช้เวลาไปกับการทำความเข้าใจและประคบประหงมอารมณ์ของคนอื่น จนเราเองก็หลงลืมที่จะกลับมาทำความเข้าใจอารมณ์ของตัวเอง การหัดอยู่คนเดียวอย่างมีสติ จะทำให้เข้าใจอารมณ์และความรู้สึกตัวเอง และนั่นคือการภาวนาที่จะทำให้หัวใจของเรางดงามและสูงส่งขึ้น ความวิเวกจะทำให้เราได้สัมผัสความรักที่บริสุทธิ์
เวลาเราอยู่กับคนอื่นๆ เรามักจะต้องคอยประนีประนอมกับคนรอบข้าง เพื่อจะได้ทำในสิ่งที่คนรอบข้างและเราอยากจะทำด้วยกัน และสิ่งนั้นก็มักจะไม่ใช่สิ่งที่เราอยากจะทำมากที่สุดเสียด้วย เพราะฉะนั้น หากเราได้อยู่คนเดียว เราจะรู้ว่าเรามีอิสระมากขึ้นในการที่จะทำอะไรตามความต้องการของหัวใจที่แท้จริง
อย่ากลัวในการที่บางครั้งชีวิตจะต้องอยู่คนเดียวตามลำพัง ผู้ที่ไม่เคยมีชีวิตอยู่อย่างโดดเดี่ยวและอยู่คนเดียวตามลำพัง จะมีชีวิตที่เข้มแข็งและเป็นที่พึ่งของใครไม่ได้ ผู้นำของโลกที่ยิ่งใหญ่ทุกคน ล้วนต้องผ่านความรันทดและความโดดเดี่ยว เพื่อเคี่ยวกรำและหล่อหลอมให้หัวใจแข็งแกร่งดุจเหล็กกล้า ในเวลาต่อมาเขาจึงสามารถกลายเป็นที่พึ่งของคนอื่นได้มากมาย
พระอริยเจ้าทั้งหลาย ก็ล้วนเคยผ่านความรู้สึกที่โดดเดี่ยวอย่างที่สุดในชีวิตมาก่อน จิตของท่านจึงหยั่งลงสู่สมาธิและบรรลุธรรม เพราะการฝึกฝนอบรมตนด้วยการอยู่คนเดียวและใช้ชีวิตที่สันโดษเรียบง่ายมาช้านาน
คุรุอตีศะ
๑๘ ธันวาคม ๒๕๕๗