ธรรมะปลายไม้กวาด

ธรรมะปลายไม้กวาด

 

 

      

          เห็นเขากวาด ใบไม้ กวาด กวาด กวาด

พื้นสะอาด เกลี้ยงเกลา เนาวิถี

ตามทางเดิน เตียนโล่ง ดูโปร่งดี

เห็นแล้วมี ความสุขใจ สบายตา

          จับไม้กวาด  กวาดใบไม้ ดูใช่ยาก

ไม่ลำบาก ยากเย็น เท่าไรหนา

จับไม้กวาด กวาด กวาด ปาดไปมา

หันซ้าย ย้ายขวา ดูน่าเพลิน

           แล้ววันหนึ่ง ตัวฉัน อยากกวาดบ้าง

มือเท้าบาง อย่างฉัน ช่างขัดเขิน

ไม่เคยจับ ไม้กวาด วาดทางเดิน

เคยแต่เมิน เดินไม่มอง  คลองมรรคา

          กวาดอย่างไร  ให้สะอาด อย่างที่เห็น

ทำอย่างไร กวาดให้เป็น ท่านเจ้าขา

มืออ่อนหัด คัดไม้กวาด เลือกถือมา

ยืนจังก้า  กวาดเก้งก้าง  อยู่กลางลาน

          มองดูพื้น ต่างพื้น  ต่างใบไม้

หิน กรวด ทราย   ฝุ่น ดิน  คลุ้งประสาน

ใบไม้บาง  ใบไม้หนา  ตรงหน้างาน

กวาดนานนาน  จึงรู้ซึ้ง ถึงความจริง

           เออ ที่แท้ ... กวาดใบไม้  ไม่ง่ายนะ

ลมประทะ  คราวใด  ใบไม้กลิ้ง

เหงื่อก็ริน ดินก็ฟุ้ง  ยุ่งยากจริง

  มือระวิง  ทั้งวิ่งวุ่น  หลบฝุ่นลม

             สติแตก  สติแตก  เตลิดหาย

  เหนื่อยทั้งกาย  เหนื่อยทั้งใจ  ช่างไม่สม

กับความคิด  คิดง่ายง่าย  ตามอารมณ์

มือระบม  ผมก็ยุ่ง  ยุงริ้นรุม                    

กวาดใบไม้   กวาดกวาดไป  ใจสดชื่น

รู้ว่ายืน  ว่าเคลื่อนไหว  เหงื่อกายชุ่ม

รู้ลมพัด  ใบไม้  มาประชุม

รู้พื้นนุ่ม  ป่าทั้งป่า  โยกแกว่งไกว

            ตั้งสติ  มั่นมาตร  วาดทางเดิน

กวาดจนเพลิน   ฉ่ำชื้น  หยาดน้ำใส

รู้ในรู้   ดูเข้าไป  ในภายใน

อิ่มเอิบใจ  ได้ปีติ   ดำริตรอง

           ลืมฝุ่นลม แดดร้อน  พื้นอ่อนแข็ง

ลืมลมแรง     ลืมใบไม้    ในห้วงห้อง

ลืมเหลือบยุง ไรริ้น  ที่บินปอง

หมายอิ่มท้อง  จากเลือดฉัน  ปล่อยมันไป

          โลกทั้งโลก  ผิ ละม้าย  คล้ายหยุดหมุน

ความการุณ  หลั่งเหลือ  เผื่อโลกผอง

   รู้เข้าไป  ในรู้  จิตประคอง

รู้สอดส่อง  รู้ว่าง  วางตัวตน

          กวาดใบไม้  กวาดให้ ถ้วน  ได้ส่วนสอง

  พื้นดินต้อง ไร้ใบไม้ กลิ้งเกลื่อนกล่น

สองพื้นจิต ไร้มลทิน แปดเปื้อนปน

บุญกุศล กวาดใบไม้ จึ่งพร้อมมูล..ฯฯ

 

 

                                                                                                 สากิยานี มีนาคม ๒๕๕๕